สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ โพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครน และการดูแลคนไทยในยูเครนว่า ได้ตั้งกลุ่มไลน์พิเศษสำหรับการติดต่อสื่อสาร ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ และกลุ่มคนไทยในยูเครน ที่มีประมาณ 250 คน เพื่อแจ้งข่าวสารที่สำคัญและเป็นช่องทางติดต่อระหว่างกันอย่างทันท่วงที
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ประชุมทางไกลกับเจ้าของร้านสปา/นวดไทยในยูเครน จำนวน 16 แห่ง เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของแรงงานไทยและให้เตรียมพร้อมในการช่วยเหลือแรงงานไทยให้สอดคล้องกับแผนงานของสถานเอกอัครราชทูตฯ
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ได้ร่วมกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ประกาศเตือนคนไทยที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครนในระยะนี้ และขอให้คนไทยในยูเครนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ และทีมเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางโดยรถยนต์ไปยังเมืองลวีฟของยูเครน เพื่อสำรวจความพร้อมในการที่จะใช้เมืองลวีฟ เป็นฐานในการอพยพคนไทยกลับประเทศไทย หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินโดยเครื่องบิน หรือให้เดินทางเข้าโปแลนด์เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
ทางคณะฯ ได้พบหารือกับผู้จัดการสนามบินนานาชาติเมืองลวีฟ สำรวจเส้นทางจากเมืองลวีฟไปยังกรุงวอร์ซอ สำรวจโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ศูนย์ตรวจ Covid-19 ฯลฯ นอกจากนี้เอกอัครราชทูตฯ ยังได้เดินทางไปร้านสปา "Wai Thai" (ไหว้ไทย) เพื่อเยี่ยมคนไทยในพื้นที่และ สอบถามความเป็นอยู่และสร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงได้มอบข้าวหอมมะลิให้ด้วย จากนั้น วันที่ 17 กุมภาพันธ์ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมประชุมกับกรมการกงสุลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลคนไทยในยูเครนหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงหารือกับทางการยูเครนและโปแลนด์ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือชุมชนไทยในยูเครนหากมีความจำเป็น
และในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เอกอัครราชทูตฯ มีกำหนดพบปะหารือทางไกลกับพบผู้แทนพนักงานร้านไทยในเมืองต่าง ๆ ของยูเครนในวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ รับฟังปัญหาหรือข้อกังวลของชุมชนไทยในยูเครนด้วย