โดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย บอกกับ "เนชั่นทีวี" ถึงสถานการณ์ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ แค่ "แสดงละครว่าจะซื้อเวลา" แต่จริงๆ ไปต่อไม่ได้แล้ว
โดยเงื่อนไขสำคัญที่สุด คือ พรรคเศรษฐกิจไทย หากครบ 1 เดือนที่กลุ่มถูกขับพ้นพรรคพลังประชารัฐเข้าสังกัดแล้วเดินหน้าได้จริง กกต.รับรอง การเกี้ยเซี้ยทางการเมืองจะกลายเป็นศูนย์
ฉะนั้นปลายทางช้าสุด คือ เดือนพฤษภาคม จบที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เดินต่อไปไม่ได้แน่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นตำแหน่ง เพียงแต่จะเลือกพ้นแบบไหน ลาออก ยุบสภาฯ หรือถูกขับไล่
พล.ท.ภราดร หรือ เสธ.แมว ยังบอกด้วยว่า การยุบสภาฯ-ลาออก จะไม่กระทบต่อกระบวนการจัดทำกฎหมายลูก หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้งแบบ "บัตร 2 ใบ" เพราะ กกต.สามารถออกข้อกำหนดให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญได้ และตรากฎหมายเป็นพระราชกำหนด
นอกจากนี้ อดีตเลขาธิการ สมช. ยังคาดการณ์ว่า เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสเจ็บตัวสูง เพราะมิตรน้อย เพื่อนพ้องน้องพี่น้อย น่าจะถูกเช็คบิลทางการเมืองจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะภาคประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายต่างๆ ตั้งแต่สมัยเป็น คสช. และทำหน้าที่รัฐบาลช่วงวิกฤติโควิด
ส่วน "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร เป็นนักการเมือง 100% มิตรมาก จะโดนเช็คบิลน้อยกว่า "หนักเป็นเบา ทุเลาเป็นหาย" สามารถยืนต่อได้ และออกจากการเมืองแบบไม่บาดเจ็บ
นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจไม่มีชื่อพรรคพลังประชารัฐในสนามเลือกตั้งอีกต่อไปแล้ว แต่อาจมีพรรคใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแทน แต่ยากที่จะมีพรรคไหนกล้าเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตอีก
ส่วนช่องทางพลิกกลับ อยู่ต่อได้ ก็ยังพอมี เพราะการเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ ถ้าเสนอให้ผลประโยชน์ให้สุดๆ ก็ไม่แน่ แต่มีโอกาสน้อยมาก