
ตำรวจ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จับกุม นายดำรงศักดิ์ วงค์ตาน้อย อายุ 38 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอดีตพนักงานโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง หลังนายดำรงศักดิ์ ได้ตระเวนก่อเหตุนำแบงก์ปลอมไปเติมเงินในตู้เติมเงิน หน้าร้านขายของชำ ในพื้นที่ อ.สันทราย เป็นเงิน 2,900 บาท โดยใช้แบงก์ปลอม 100 บาท จำนวน 29 ใบ ในการก่อเหตุ
ตำรวจสามารถจับกุมนายดำรงศักดิ์ ได้ที่บ้านเลขที่ 15/1 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง คือ เครื่องถ่ายเอกสาร 1 เครื่อง ธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 หมายเลข 2ท1217595 จำนวน 5 ฉบับ และธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ วีโว่ 1 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องโทรศัพท์ที่ผู้ถูกจับใช้ธนบัตรปลอมใส่ในเครื่องเติมเงินแล้วโอนเงินเข้าเครื่องหมายเลขโทรศัพท์ของกลางดังกล่าว
พนักงานสอบสวนสภ.สันทราย ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ปลอมและใช้สิ่งของทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น โดยผิดกฎหมาย”
โดยพฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 เวลาประมาณ 11.58 น. ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งได้เปิดตู้รับเติมเงินสดหน้าร้านชำของตนเอง เพื่อนับเงิน ปรากฏพบธนบัตรที่มีผู้ใช้บริการนำมาใส่ในเครื่องพบเป็นธนบัตรปลอม โดยเป็นฉบับละ 100 บาท จำนวน 29 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2,900 บาท ผู้เสียหายทราบว่าเป็นของปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีจนกระทั่งตำรวจชุดสืบสวนจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายดำรงศักดิ์ เป็นผู้ที่ปลอมธนบัตรและนำไปใช้ใส่ในเครื่องเติมเงินอัตโนมัติที่จะมีวางไว้ประจำแต่ละร้านในชุมชนย่านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์มือถือ ที่นายดำรงศักดิ์ เติมเข้าไป อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบลักษณะบุคคลต้องสงสัย
จึงได้ติดตามไปจนพบนายดำรงศักดิ์อยู่บริเวณบ้าน จึงได้เข้าซักถาม นายดำรงศักดิ์ให้การรับสารภาพว่าตนได้เป็นผู้ที่กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริงโดยให้การเกี่ยวกับวิธีการทำผิดว่า เริ่มต้นจากการนำเครื่องปริ้นของกลางรายการที่ 1 นำธนบัตรฉบับละ 100 บาท มาวางถ่ายเอกสารด้านหนึ่ง จากนั้น ได้วัดระยะห่างตามขนาดเครื่องปริ้น แล้วกลับหน้ากระดาษ เพื่อให้ถ่ายเอกสารอีกหน้าหนึ่งให้ตรงกับกระดาษที่ถ่ายไว้แล้วด้านหนึ่ง เมื่อถ่ายตรงกันทั้งสองด้านก็ได้ตัดออกเป็น 1 ฉบับ จากนั้น ก็ได้ทำเป็นชุดๆ จำนวนหลายฉบับ จากนั้นได้นำเงินปลอมดังกล่าวไปหยอดเติมเงินตู้อัตโนมัติเพื่อโอนเข้าบัญชีตนเอง หรือเติมเงินเข้าโทรศัพท์มือถือ กระทั่งถูกชุดจับกุมตรวจพบและขยายผลจนกระทั่งทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการจับกุมและคำรับสารภาพ ผู้ถูกจับยังได้ให้การโดยรวมว่าได้นำฉบับปลอมตามวิธีการดังกล่าวไปก่อเหตุจำนวน 3 ร้าน
ภาพ/ข่าว : เกรียงไกร รัตนา จ.เชียงใหม่