TDRI ชี้ไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้น 'ดอกเบี้ย'

ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ระบุ เศรษฐกิจโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อปี 2563 และเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2564 ต่อเนื่องมาถึงปีนี้ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.4%

ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด 19 มีความเสี่ยงลดลง เพราะหลายประเทศทั่วโลกได้กระจายวัคซีนต่อเนื่องและมากกว่า 70% ของประชากร เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์ต่างๆจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศหลักๆที่เป็นคู่ค้าของไทย

            ส่วนอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มกลับมาอยู่ในทิศทางขาขึ้น นำโดยโดยสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตาม เพื่อไม่ให้เงินทุนต่างชาติไหลออก ในส่วนของไทยภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ได้ดีมากนัก เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับไม่สูงมาก แต่หนี้ครัวเรือนและหนี้ของ SMEs อยู่ในระดับสูง ไทยจึงยังไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเหมือนประเทศอื่นๆ โดยมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปี

            สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ มองว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะเบาบางกว่าเดลตา คาดว่า GDP ของไทยจะขยายตัว  3.5% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการบริโภคภายในประเทศที่มีสัดส่วนของเศรษฐกิจถึง 50% และเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2566

            ส่วนภาคการท่องเที่ยวของไทย คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนการแพร่ระบาดของโควิด 19  โดยคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางมาประมาณ 5-6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 4.3 แสนคนในปี 2564