สายการบินวอนรัฐบาลสหรัฐฯเลิกตรวจโควิดคนฉีดวัคซีนเข้าประเทศ

สมาคมสายการบินอเมริกา (Airlines for America), หอการค้าสหรัฐฯ, สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ, สมาคมอุตสาหกรรมอากาศยาน และสมาคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ยื่นจดหมายต่อเจฟฟ์ เซียนต์ส ผู้ประสานงานรับมือไวรัสโคโรนา 2019 ของทำเนียบขาว เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกข้อบังคับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทางเข้าสหรัฐฯ 

เนื้อหาในจดหมาย ระบุเหตุผลที่ควรยกเลิกข้อบังคับว่า จากผลการสำรวจผู้โดยสารเครื่องบิน พบว่า ส่วนใหญ่บอกว่า การตรวจหาโควิด-19 ก่อนการเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจไม่เดินทางไปต่างประเทศ 

นอกจากนี้อีกเหตุผล คือ โควิด-19 แพร่กระจายอย่างกว้างขวางทั่วสหรัฐฯ และความพยายามป้องกันเชื้อเข้าสู่ประเทศจากผู้โดยสารเครื่องบินไม่อาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้ โดยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 74.3 ล้านคนในสหรัฐฯ หรือ 22% ของประชากรทั้งหมด  ผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ทั่วทั้ง 50 รัฐ และอัตราการฉีดวัคซีนก็อยู่ในระดับสูง รวมถึงมียารักษาตัวใหม่แล้ว

แต่จดหมายก็ระบุด้วยว่า หากพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ที่น่ากลัว ก็อาจนำมาตรการตรวจหาเชื้อก่อนการเดินทางกลับมาใช้ใหม่ได้

นอกจากนี้ในจดหมายยังยกตัวอย่างว่า สหภาพยุโรปเสนอให้ประเทศสมาชิกยกเลิกข้อบังคับตรวจโควิด-19 ก่อนการเดินทางเข้าประเทศภายในยุโรป และอังกฤษจะยกเลิกข้อบังคับตรวจโควิด-19 สำหรับผู้โดยสารเครื่องบินจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.เป็นต้นไป 

เมื่อเดือน ธ.ค.2564 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปรับนโยบายตรวจโควิด-19 เข้มงวดขึ้น โดยผู้โดยสารเครื่องบินที่จะเข้าสหรัฐฯ ต้องแสดงผลตรวจเป็นลบก่อนการเดินทาง 1 วัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่กำหนดในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า ผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนแล้วจะต้องมีผลตรวจเป็นลบภายใน 3 วันก่อนออกเดินทาง