svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ประชาชาติขอแก้กฎหมายกยศ.ไม่ผลักหนี้ให้เด็กจบใหม่

20 มกราคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พรรคประชาชาติเสนอรื้อแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ กยศ.ใหม่ ด้าน “กมลศักดิ์” ชี้ ต้องปลอดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ-ขยายเวลาชำระหนี้ เพื่อให้โอกาสเด็กจบใหม่ อย่าผลักเป็นภาระจนเดือดร้อน

20 มกราคม 2565 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่..) พ.ศ.. ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และคณะเป็นผู้เสนอ

 

โดยนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า พรรคได้ยื่นร่างกฏหมาย พ.ร.บ. กยศ.ฉบับนี้ตั้งแต่ปี 2563 เพราะเล็งเห็นปัญหาหนี้ กยศ. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาร้ายแรง เพราะมีการศึกษาต่ำที่สุด และมีปัญหายากจนที่สุด หนี้ กยศ. ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก แต่ได้รับแจ้งจากรัฐสภาว่า ร่างที่เสนอไปนั้นเกี่ยวข้องกับการเงิน จึงไม่นำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฏร เพื่อพิจารณาเป็นร่างฉบับแก้ไข แต่เมื่อต้นปี 2565 ฝ่ายรัฐบาลก็ยื่นร่างกฏหมาย กยศ. เข้ามา พรรคจึงยื่นร่างกฏหมายฉบับนี้เข้ามาอีกครั้ง และเป็นไปตามคาดว่านายกรัฐมนตรีต้องเซ็นรับรอง

 

ทั้งนี้ ร่างที่พรรคเสนอ มีหลักการ คือ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. กยศ. 2560 เหตุผลโดยที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นหน่วยงานของรัฐที่ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา หรือประชาชน ผู้ที่ขาดแคนทุนทรัพย์ ให้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และการศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ที่รัฐพึงช่วยเหลือทุนการศึกษา

สำหรับผู้ขาดแคนทุนทรัพย์สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ปลอดดอกเบี้ย และลดภาระการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงิน ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้กู้ยืมเงิน มีโอกาสปรับโครงสร้างหนี้ ปลดภาระหนี้ผู้กู้ยืมเงิน และผู้ค้ำประกันจากการเป็นหนี้ มันไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 54 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้รัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา ให้ประชาชนได้มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.นี้

 

อย่างไรก็ตาม ร่างที่พรรคเสนอมีทั้งหมด 14 มาตรา เนื้อหามีความแตกต่างกับร่างของครม.บางประเด็น ในมาตรา 44 เห็นว่าสร้างความเดือดร้อนต่อนักศึกษาที่จบการศึกษาแล้ว และที่กำลังจะจบการศึกษาในอนาคต จึงได้แก้ไขให้ยกเลิกทั้งมาตรา โดยเสนอใหม่ให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ จากเดิม 15 ปี เป็น 30 ปี ประเด็นสำคัญที่เป็นปัญหาคือดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ

 

“เด็กนราธิวาสฐานะไม่ใช่จะดีทุกคน นักศึกษาเรียนจบมารับปริญญาที่กรุงเทพ พ่อแม่ดีใจที่จบการศึกษา แต่หอบหนี้กลับไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อถึงเวลา กยศ.แจ้งให้ชำระหนี้ บวกดอกเบี้ย บวกเบี้ยปรับ มีเคสหนึ่งกู้เงินต้นเพียง 300,000 กว่าบาท แต่อยู่ดีๆมีหนังสือจากสำนักงานทนายความทวงดอกเบี้ย 74,700 บาท เบี้ยปรับ 496,000 กว่าบาท รวมทั้งหมด 900,000 กว่าบาท เขากู้เงินเรียนเพราะเขายากจน แต่ปรากฎว่าเรียนจบแล้วไม่มีงานทำงาน ต้องจ่ายหนี้ 900,000 กว่าบาท” นายกมลศักดิ์ กล่าว  

ขณะเดียวกัน พรรคเห็นว่าดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ คือ ตัวปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่จบสิ้น ในมาตรา 44 ของร่างกฎหมาย กยศ.ฉบับพรรคประชาชาติ คือ ให้ปลอดดอกเบี้ยและประโยชน์อื่นใด เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐจะต้องให้แก่ประชาชน ให้ได้รับการศึกษา ไม่ใช่ให้ กยศ. ทำตัวเป็นธนาคารเชิงพาณิชย์ เรียกดอกเบี้ยจากคนจน

 

นายกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า หาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านสภาฯ หนี้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ยังอยู่ในมาตรา 44 ให้มีผลต่อผู้ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ขยายระยะเวลาใหม่ ส่วนคนที่ถูกยึดทรัพย์บังคับคดี สามารถปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ภายในระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ โดยพรรคมีแนวคิดต้องแปลงหนี้ กยศ. เป็นทุนการศึกษาแทน โดยผู้ที่สำเร็จการศึกษาได้เกียรตินิยม สามารถแปลงคะแนนการเรียน เป็นทุนการศึกษา หรือนักศึกษาอื่นที่คณะกรรมการได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ ไม่จำเป็นต้องจบเกียรตินิยม แต่สามารถแปลงหนี้ กยศ. เป็นการให้ทุนการศึกษา

 

“หนี้ กยศ.ปัจจุบันเป็นหนี้บุริมสิทธิ คือ ถ้าเรียนจบแล้วไปทำงานที่บริษัทเอกชนถือเป็นหนี้บุริมสิทธิ มีสิทธิเหนือหนี้อื่นๆ สามารถให้นายจ้างหักค่าจ้างได้เลย ซึ่งพรรคประชาชาติเราเห็นว่า หนี้ กยศ. ไม่สมควรเป็นหนี้บุริมสิทธิ เพราะภาระของแต่ละคนต่างกัน บางคนอาจมีพ่อแม่เป็นผู้ป่วยติดเตียงต้องดูแลครอบครัว นายจ้างก็ไม่สมควรหักเงินเดือนของนักศึกษาที่จบใหม่ โดยไม่เห็นความเดือดร้อนของคนที่จบใหม่”

 

ขณะเดียวกัน เชื่อว่าร่างกฎหมายของพรรค โดยเฉพาะการขยายระยะเวลาชำระหนี้ การปลอดดอกเบี้ย และการปลอดเบี้ยปรับ มีความสำคัญอย่างยิ่ง หวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อศึกษาและแก้ไขนำไปสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 ต่อไป ขอฝากไปยังกมธ.ว่าอย่าร่างกฎหมายเพื่อเอาใจฝ่ายบริหาร หรือประโยชน์ของ กยศ.เป็นหลัก แต่ต้องร่างกฏหมายเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง

logoline