ลอร์ด ฟาตาเฟฮี ฟากาฟานัว ประธานรัฐสภาตองกา โพสต์แถลงการณ์ในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ระบบการสื่อสารในตองกายังใช้การไม่ได้ ทำให้การสูญเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์จึงยังไม่อาจทราบแน่ชัดได้ แต่เท่าที่รู้ คือ ตองกาต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนทันทีเพื่อจัดหาน้ำดื่มและอาหารแก่ประชาชน
ภูเขาไฟ ฮังกา-ตองกา-ฮังกา-ฮายาไป ที่ตั้งอยู่ใต้ทะเล ใกล้กับตองกา เกิดการปะทุพ่นเถ้าถ่านนาน 8 นาที ส่งผลให้เกิดสึนามิขนาด 1.2 เมตรซัดเข้าสู่ชายฝั่ง และมีการแจ้งเตือนภัยสึนามิในหลายประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก
คำร้องขอของประธานสภาตองกามีขึ้นในขณะที่ศูนย์ปรึกษาเถ้าถ่านภูเขาไฟดาร์วินของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ตรวจพบการปะทุของภูเขาไฟลูกดังกล่าวอีกครั้งเมื่อเวลา 22.10 ของวันอาทิตย์ตามเวลามาตรฐานสากล และศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกตรวจวัดได้ว่าเกิดคลื่นขนาดใหญ่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดจากการปะทุครั้งใหม่ของภูเขาไฟ แต่ก็ยังไม่มีแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดที่จะทำให้เกิดคลื่นขนาดดังกล่าวได้
ขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ส่งเครื่องบินลาดตระเวนออกไปประเมินความเสียหายในตองกา และประสานงานกับสหรัฐฯ ฝรั่งเศสกับอีกหลายประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ออสเตรเลียคาดการณ์เบื้องต้นว่า อาจไม่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในตองกา และสนามบินน่าจะยังอยู่ในสภาพดี แต่ถนนและสะพานได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก
องค์กรการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก เสนอความพร้อมให้ความช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งรุนแรงในรอบ 1,000 ปีครั้งนี้
ศาสตราจารย์ เชน โครนิน นักภูเขาไฟวิทยาของมหาวิทยาลัยโอกแลนด์ ในนิวซีแลนด์ แสดงความเห็นว่า การปะทุของภูเขาไฟใต้น้ำในตองกาอาจรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่การปะทุของภูเขาไฟปินาตูโบ ในฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2531
นอกจากนี้พยากรณ์อากาศของนิวซีแลนด์ รายงานว่า เกือบ 26 ชม.หลังการปะทุของภูเขาไฟในตองกา บางพื้นที่ที่อยู่ห่างจากตองกาไปทางตะวันตกหลายพันกม.อย่าง ฟิจิ, วานูอาตู และนิวแคลิโดเนีย ได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่านภูเขาไฟลอยปกคลุม และคาดว่า กลุ่มเถ้าถ่านจะลอยไปถึงออสเตรเลียในวันนี้