สหรัฐฯตกลงห้ามทหารออกนอกฐานทัพในญี่ปุ่นเพื่อคุมโควิด

นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ เปิดเผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐฯเห็นชอบหลักการยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ภายในฐานทัพของสหรัฐฯในญี่ปุ่น หลังจากมีการระบาดพุ่งสูงขึ้นใน 3 จังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ ได้แก่ โอกินาวา ฮิโรชิมา และยามากุจิ โดยจะมีการควบคุมหรือห้ามออกนอกฐานทัพโดยไม่จำเป็น และจะหารือกันต่อเพื่อกำหนดรายละเอียด

ขณะเดียวกันประกาศสถานการณ์กึ่งฉุกเฉินเริ่มมีผลบังคับใช้ใน 3 จังหวัดดังกล่าวเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามคำขอของผู้ว่าการจังหวัด ซึ่งเชื่อว่า การระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในฐานทัพสหรัฐฯเป็นต้นตอของการระบาดระลอกนี้

ภายใต้สถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน ทั้ง 3 จังหวัดขอความร่วมมือให้สถานประกอบการ เช่น ร้านอาหารลดเวลาการบริการ จำกัดลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มได้เพียงกลุ่มละไม่เกิน 4 คน หรือ งดเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์

ขณะที่สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ใน 3 จังหวัดนี้พบว่า โอกินาวา ซึ่งเป็นฐานประจำการของทหารสหรัฐฯส่วนใหญ่ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 1,759 คนเมื่อวันเสาร์ และจังหวัดยามากุจิ มี 154 คน ซึ่งเกือบครึ่งอยู่ในเมืองอิวากุนิ ที่ตั้งของฐานทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วญี่ปุ่นทะลุ 8,400 คนเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.

ด้านกองทัพสหรัฐฯประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมโรคในฐานทัพในญี่ปุ่นที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. กำหนดให้ทุกคนต้องสวมหนากากในสถานที่ทุกแห่งไม่ว่าจะมีสถานะการฉีดวัคซีนอย่างไร เพิ่มเติมจากเดิมกำหนดให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกฐานทัพ