ข้อจำกัดใหม่ถูกนำมาใช้เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซียเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยทางการประกาศว่าการเข้าถึงร้านค้าและร้านอาหารจะถูกจำกัดสำหรับชาวเมืองที่ไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
นับตั้งแต่วันจันทร์ ( 3 มกราคม ) เป็นต้นไป การเข้าไปในร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ จะจำกัดเฉพาะผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น รวมถึงผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 ผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบ หรือได้รับการยกเว้นทางการแพทย์สำหรับการเข้ารับการฉีดวัคซีน
แต่สำหรับร้านขายของชำและร้านขายยา ผู้มาใช้บริการ ไม่จำเป็นต้องใช้ใบรับรองใด ๆ
แต่เดิม ทางการเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมีแผนที่จะนำข้อจำกัดใหม่มาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ก็ได้เลื่อนการนำมาตรการออกมาใช้ถึง 2 ครั้ง เพื่อให้ร้านอาหารต่าง ๆ สามารถให้บริการได้อย่างเต็มที่ในช่วงปีใหม่
อเล็ก มาสลึกิน ซีอีโอของร้านอาหาร " มังกี กัสโตรบาร์ " บอกว่ารู้สึกขอบคุณต่อทางการที่เลื่อนข้อจำกัดออกไป แต่เดือนมกราคมจะเป็นเดือนที่ยากลำบากสำหรับเรื่องผลกำไรสำหรับธุรกิจของเขา
เมื่อปลายเดือนธันวาคม ทางการเมืองก็ยังจำกัดการเข้าถึงโรงแรมอีกด้วย
อังเดรย์ เปเตลิน ซีอีโอของกลุ่มซิตี้เทล ผู้บริหารโรงแรม "เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก" บอกว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาและจะ "สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจ"
หน่วยงานเฉพาะกิจด้านไวรัสโคโรนาของรัสเซียรายงานจำนวนผู้ป่วยรายวันรายใหม่ว่าอยู่ที่ 18,233 คนเมื่อวันอาทิตย์ สำหรับเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนั้นมีอยู่ 1,468 คน
รัสเซียพบการแพร่ระบาดลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันอยู่ต่ำกว่า 20,000 คน หลังจากเพิ่มสูงสุดที่มากกว่า 40,000 คนในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลรายงานการติดเชื้อโอมิครอนใหม่เพียง 100 รายเท่านั้น แต่ก็เตรียมพร้อมสำหรับการระบาดระลอกใหม่หลังเทศกาลวันหยุด
ปัจจุบัน มีชาวรัสเซียเพียง 51% เท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ รัฐบาลได้พยายามเร่งให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน โดยอ้างว่าวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย และวัคซีนอื่น ๆ ที่ผลิตในประเทศ ให้การป้องกันที่ดีสำหรับเชื้อโอมิครอน