รายงาน "Counting the cost 2021: a year of climate breakdown," ที่เผยแพร่โดย คริสเตียน เอด องค์กรการกุศลในอังกฤษเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุด 10 ครั้งทั่วโลกในปี 2564 มีตั้งแต่ พายุเฮอร์ริเคนไอดาในสหรัฐฯ, น้ำท่วมหนักในยุโรปและเอเชีย และภัยแล้งในละตินอเมริกา ได้คร่าชีวิตประชาชนรวมอย่างน้อย 1,075 คน และทำให้อีกเกือบ 1.3 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ภัยพิบัติทั้ง 10 ครั้งในปี 2564 สร้างความเสียหายรวม 1.7 แสนล้านดอลลาร์ หรือ เกือบ 5.7 ล้านล้านบาท ขณะที่ภัยพิบัติ 10 อันดับในปี 2563 สร้างความเสียหาย 1.5 แสนล้านดอลลาร์
ภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดของปีนี้ คือ พายุเฮอร์ริเคนไอดาที่มีความรุนแรงระดับ 4 พัดถล่มชายฝั่งในรัฐหลุยเซียนาของสหรัฐฯ และยังก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดและน้ำท่วมในหลายรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างความเสียหายรวมเกือบ 65,000 ล้านดอลลาร์ในเดือน ส.ค. และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 95 ราย
ส่วนน้ำท่วมในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนีและเบลเยียมช่วงเดือน ก.ค.สร้างความเสียหายมากเป็นอันดับ 2 ที่ 43,000 ล้านดอลลาร์ และมีผู้เสียชีวิตรวม 240 ราย
พายุฤดูหนาวที่ปกคลุมรัฐเท็กซัสทำให้เกิดวิกฤตไฟฟ้าดับในเดือน ก.พ. สร้างความเสียหาย 23,000 ล้านดอลลาร์ และน้ำท่วมในมณฑลเหอหนานของจีนในเดือน ก.ค. สร้างความเสียหาย 17,600 ล้านดอลลาร์
ส่วนภัยพิบัติอื่นๆ มีทั้งน้ำท่วมในรัฐบริติช โคลัมเบียของแคนาดา ที่สร้างความเสียหาย 7,500 ล้านดอลลาร์ อากาศหนาวเย็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงในฝรั่งเศสสร้างความเสียหายแก่ไร่องุ่น พายุไซโคลนพัดถล่มบังกลาเทศและอินเดียในเดือน พ.ค.
ราเชล แมนเดอร์ สมาชิกเครือข่าย Young Christian Climate Network บอกว่า "การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจะทำให้เราล้มละลาย และเราจะสูญเสียสิ่งที่มากกว่าเงินทอง"
นอกจากนี้นุชรัต ชาวดูรี ที่ปรึกษาของคริสเตียน เอด ในบังกลาเทศ บอกว่า แม้เป็นเรื่องดีที่ความสูญเสียและความเสียหายจากภัยพิบัติถูกหยิบยกในเวทีประชุมโลกร้อน COP26 แต่น่าผิดหวังที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และเรียกร้องให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ในปีหน้า