วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ บก.ปอท. น.ส.ลูกหยี่ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พนักงานขายบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความ โดยระบุช่วงบ่ายวานนี้ (16 ธ.ค.) ขณะทำงานอยู่ในออฟฟิศ ได้รับโทรศัพท์หมายเลข 0600036029 และอีกเบอร์ที่อ้างว่าเป็น สภ.เมืองเชียงใหม่ หลอกให้โอนเงินในบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตทั้งหมดไปให้ตรวจสอบอ้างว่าพัวพันกับการฟอกเงิน
โดย น.ส.ลูกหยี่ ระบุว่า ตนถูกหลอกเหมือนเหยื่อรายอื่นๆ ที่แชร์วิธีการคนร้ายในอินเตอร์เน็ต คือคนร้ายโทรศัพท์มาหาแจ้งว่าโทรมาจาก DSL (บริการส่งของไปต่างประเทศ) พัสดุสิ่งของที่ตนส่งไปถูกตีกลับ ขอให้ตนติดต่ออีกหมายเลขหนึ่ง ก่อนจะมีการโอนสายอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมแนะนำให้โอนเงินแต่ละบัญชี รวมทั้งวงเงินในบัตรเครดิตด้วย เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบ เมื่อตรวจเช็คเสร็จแล้วจะโอนคืนภายใน 15 นาทีซึ่งตนได้โอนเงินไปบัญชีที่เขาให้มาจำนวนหลายครั้ง รวมประมาณ 7.4 หมื่นบาท
กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันทางตำรวจได้รับการร้องเรียนจำนวนมากว่า มีกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ บริษัทขนส่งสินค้า แจ้งว่าบัญชีของท่านหรือพัสดุสิ่งของของท่านที่ส่งไปต่างประเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ก่อการร้าย ฯลฯ มีการข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีในอัตราโทษสูง จะมีการออกหมายจับ ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดี ต้องโอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ยืนยันว่า การแจ้งความพนักงานสอบสวนจะต้องไปแจ้งด้วยตัวเอง ไม่มีการรับแจ้งทางโทรศัพท์ โดยโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้โทรมาหาเหยื่อจะใช้ระบบ voip (VoIP: Voice over Internet Protocol เป็นเทคโนโลยีสำหรับการสื่อสารทางเสียงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือโครงข่ายอื่นๆ ที่ใช้อินเตอร์เน็ต)
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอชี้แจงว่า ธนาคาร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะหากพบว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจตามกฎหมายในการยึด อายัดบัญชีธนาคาร โดยจะเป็นผู้ติดต่อกับทางธนาคารโดยตรง
จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ และหากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นต่อไป และขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนที่ได้รับการติดต่อโดยผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ พนักงานบริษัทขนส่งพัสดุ โทรศัพท์หาพี่น้องประชาชนและใช้พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น ขอให้ตั้งสติ อย่าหลงเชื่อ
และสามารถตรวจสอบโดยโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่วยงานดังกล่าวได้โดยตรง และสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานีตำรวจ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อได้ผ่านแอปพลิเคชัน PolicePhoneBook ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านช่องทาง https://apps.apple.com/th/app/policephonebook/id1465554530 (iOS/iPadOS) และ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.zealtech.policephonebook2019 (Android) หรือสามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง