ปฏิบัติการช่วยแรงงานไทย รอดพ้นค้ามนุษย์กัมพูชา

การหลอกลวงเหยื่อไปทำงานในลักษณะของการค้ามนุษย์ ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในสังคมไทย ล่าสุดปฎิบัติการของตำรวจไทยที่ได้ร่วมมือกับตำรวจกัมพูชา และสถานทูตไทยในกัมพูชา เกิดขึ้นกลางกรุงพนมเปญ หลังจากสืบสวนทราบว่ามีคนไทยกว่า 300 ชีวิต ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์/ เว็บเงินกู้ /โรแมนซ์สแกม โดยมีแก๊งชาวจีนเป็นนายทุนใหญ่ ร่วมมือกับนายหน้าคนไทย หลอกลวงคนไทยด้วยกันเอง

หนึ่งในผู้เสียหายที่รอดชีวิตมาได้ เล่าถึงความในใจให้กับทีมข่าวสืบสวนความจริง กับชีวิตที่เรียกได้ว่า “เหมือนตายทั้งเป็น” ในตึกแห่งหนึ่งกลางเมืองสีหนุวิลล์ ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากเธอตัดสินใจหางานทำในช่วงที่สถานการณ์โควิดที่ทำให้เธอขาดรายได้ในการประทังชีวิต และเมื่อได้เห็นโฆษณาในเฟซบุ๊คหนึ่ง ที่เปิดรับสมัครพนักงานไปทำงานที่กัมพูชา โดยระบุว่าไปทำเว็บพนันบอล สนนเงินเดือนที่เดือนละ 3 หมื่นบาท โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง และมีรถมารับถึงหน้าบ้าน เธอจึงตัดสินใจโดยไม่ลังเล

เมื่อเส้นทางที่เธอเลือกมาถึง เธอก็ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ๆ ติดต่อเธอมาอย่างดี จนกระทั่งเดินทางไปถึงอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นประเทศติดต่อกับประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่ได้พาเธอลักลอบเดินทางออกประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงสถานการณ์โควิด มีการปิดด่านทั้งหมด

การทำงานแบบ ”ไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน” ไม่สามารถออกไปไหนได้ นอกจากอยู่ในตึกที่ทำงาน เรียกว่าเหมือนถูก ”กักขัง” หนำซ้ำยังต้องทำงานหนักแข่งกับเวลาและยอดรายได้ที่ต้องหลอกเงินคนไทยเข้ามาในบัญชีของแก๊งชาวจีนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของเงินทุน แต่หากทำไม่ได้ตามเป้าก็จะถูกหักเงินเดือน หรือขายคนๆ นั้นต่อให้กับนายทุนเจ้าอื่น เพื่อไปทำงานอย่างอื่นแทน อีกทั้งบางคนถูกพาไปค้าประเวณีด้วย

เธอเล่าถึงรูปแบบขบวนการนี้ว่า เป็นขบวนการใหญ่ที่มีคนไทยร่วมมือกับคนจีน หลอกลวงเหยื่อในลักษณะเป็นเอเจนซี่ ได้ค่าหัวจากเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานคนละ 5 หมื่นบาท ก่อนส่ง "ออเดอร์" ต่อไปยัง ขบวนการนี้ที่แตกสาขางานออกไปหลายรูปแบบ ทั้งเว็บพนันบอล/คอลเซ็นเตอร์/หลอกลงทุน/เงินกู้ /แชร์ทอง ส่วนแก๊งคนจีนที่เธอรับรู้มามีนับร้อยชีวิต ที่คอยเป็นหูเป็นตาให้กับนายทุน

ส่วนคุณสมบัติของเหยื่อที่กลุ่มนี้ต้องการ จะต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปี เพศหญิงหรือเพศชาย ก็ได้ โดยมีความสามารถพิมคอมพิวเตอร์รวดเร็ว คล่องแคล่ว, พูดจาฉะฉาน และที่สำคัญคนที่พูดภาษาจีนได้จะมีภาษีดีกว่าคนอื่นๆ เนื่องจากต้องติดต่อกับขบวนการนี้

คลิปภาพที่ถูกถ่ายไว้จากเหยื่อคนไทย ที่พยายามพังประตู เพื่อขอให้ตำรวจช่วยเหลือในกรุงพนมเปญ ท่ามกลางตึกทึบที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันนานนับหลายเดือน แสดงให้เห็นถึงการร้องขอชีวิต และในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยออกมาได้ทั้งหมด

ปฎิบัติการเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทย 3 จุดในประเทศกัมพูชา เริ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังตำรวจและรัฐบาลไทยได้รับข้อมูลการขอความช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานมานานนับปีกว่า 300 ชีวิต จากข้อมูลพบว่าแรงงานไทยที่ถูกหลอกกระจายอยู่ 3 จุดในประเทศกัมพูชา คือ ปอยเปต,พนมเปญ และสีหนุวิลล์

รูปแบบการหลอกลวงของขบวนการนี้จะมีเฟซบุ๊กอวตาร เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เข้ามาสมัครงาน โดยมีแรงจูงใจเรื่องค่าตอบแทนที่สูง5-6หมื่นบาทต่อเดือน และงานสบาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อก็จะตกเป็นเหยื่อทันที ก่อนส่งเหยื่อข้ามไปประเทศกัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติ ทางอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ทั้งเดินข้ามป่าเขา,ล่องแม่น้ำ หรือแม้กระทั่งบางคนต้องแช่น้ำหลบหน่วยลาดตระเวนชายแดนหลายชั่วโมง เสี่ยงอันตรายจากการเดินข้ามแดน ก่อนถูกส่งตัวไปสู่จุดหมายปลายทาง

ขบวนการนี้เรียกได้ว่า เป็นแก๊งจีนข้ามชาติรายใหญ่ ที่มีคนร่วมหลอกลวงเกือบร้อยคน ที่กระจายไปตามจุดต่างๆ ในประเทศกัมพูชา โดยมีนกต่อเป็นคนไทยในการหาเหยื่อก่อนส่งออเดอร์ไปตามเป้าหมายที่ต้องการคน

ล่าสุดตำรวจเตรียมออกหมายจับขบวนการนี้เพิ่มอีก 40 คน ทั้งคนไทย ที่อยู่ในฝั่งไทย ที่คอยช่วยประสานคนจีนรวมทั้งคนจีนที่เป็นคนก่ออาชญากรรม พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการนี้ที่หลอกลวงเงินคนไทยไปนานนับ 1 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล

นับได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของความเป็นความตาย กับอาชญากรรมค้ามนุษย์ ด้วยการหลอกคนด้วยกันเอง หลังจากนี้คงต้องจับตาขบวนการค้ามนุษย์เหล่านี้ที่จะมีรูปแบบการก่ออาชญากรรมที่เปลี่ยนไปอีกหรือไม่ หลังจากตำรวจทลายแก๊งชาวจีนข้ามชาติกลุ่มนี้แล้ว ก็อาจจะมีกลุ่มอื่นหลงเหลืออีกหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือประชาชนจะต้องรู้เท่าทันและไม่เชื่อการเชิญชวนที่เสนอเงินเดือนเกินจริง รวมถึงการตรวจสอบบริษัทปลายที่เราสนใจ เพียงเท่านี้ก็จะไม่ทำให้เราตกเหยื่อได้