svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศึกชิง"รองหัวหน้า ปชป.ภาคใต้"จุดตัดใหม่ของพรรคเก่าแก่

17 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลายฝ่ายกำลังจับตามองการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีขึ้นในวัน 18 ธ.ค. ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพ เพราะการลาออกจากพรรครวมถึงตำแหน่งรองหัวหน้าภาคใต้ ของ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" อดีต ส.ส.พัทลุง 8 สมัย กำลังทำให้เกิด "ศึกใน" รอบใหม่ตามมา

ที่ต้องบอกว่าเกิดเป็นศึกในของประชาธิปัตย์ เพราะนำไปสู่การเลือกรองหัวหน้าพรรคภาคใต้คนใหม่ ซึ่งศึกครั้งนี้แม้จะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกร้ายแรงถึงขั้น "พรรคร้าว" แต่กำลังจะกลายเป็น "หมุดหมายใหม่" ของพรรค เสมือนเดินสู่ทางแยกว่าจะเลือกเส้นทางสาย "อนุรักษ์นิยม" หรือ ​Traditional เหมือนเดิม หรือจะเปลี่ยนการบริหารแนวใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ในแบบ New Concept

 

การเลือก "รองหัวหน้าพรรคภาคใต้" คนใหม่ จะเกิดขึ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งมีหลายวาระการประชุม แต่ที่ทุกฝ่ายจับตามอง คือ เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่างลง จากกรณี นิพิฏฐ์ ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ พร้อมโบกมือลาพรรคไป และ "อันวาร์ สาและ" ส.ส.ปัตตานี ลาออกจากรองเลขาธิการพรรค

 

ทว่า ตำแหน่งที่แย่งชิงกันดุเดือด และแบ่งฟากเชียร์กันชัดเจน คือ "รองหัวหน้าพรรคภาคใต้" โดยมีผู้ท้าชิง 2 คน ได้แก่ "ชินวรณ์ บุณยเกียรติ" ส.ส.นครศรีธรรมราช กับ "เดชอิศม์ ขาวทอง" ส.ส.สงขลา สมัยแรก ดังนั้น จึงมาทำความรู้จักกับ 2 คนนี้กันก่อน

 

เริ่มจาก "ชินวรณ์" เป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย และมีดีกรีเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" อยู่ในตำแหน่งราวๆ 1 ปี 8 เดือน หรือเกือบ 2 ปี อีกทั้ง ยังเคยเป็นประธานวิปรัฐบาล หรือเรียกว่าผ่านมาหมด ทั้งงานสภาของฝ่ายนิติบัญญัติ และงานบริหาร

 

ศึกชิง"รองหัวหน้า ปชป.ภาคใต้"จุดตัดใหม่ของพรรคเก่าแก่

 

ทำให้ "ชินวรณ์" ได้รับแรงหนุนจาก กลุ่ม Traditional ซึ่งประกอบด้วยปูชนียบุคคลของพรรค ทั้ง ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ และ สุทัศน์ เงินหมื่น ด้วยเหตุผลเรื่อง "พรรษาการเมือง" และ "ผลงาน" ที่ทำให้กับพรรคมาอย่างยาวนาน  

 

นอกจากนี้ "ชินวรณ์" ยังได้ประกาศวิสัยทัศน์เอาไว้ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า "นครศรีธรรมราช ถือเป็นเมืองหลวงของพรรคในภาคใต้ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะมี ส.ส.10 คน วิเคราะห์ว่ากระแสหลักของพรรคต่างๆ ไม่น่าจะเกิน 10 พรรค คะแนนประชาธิปัตย์จะต้องกลับมาไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคะแนน ครั้งหน้าจึงขออาสานำพรรค กลับคืนมาทั้ง 10 เขต"

 

สาเหตุที่ "ชินวรณ์" ยกประเด็นที่นครศรีธรรมราชมาเป็นคำประกาศนโยบาย นอกจากเป็นพื้นที่เลือกตั้งและบ้านเกิดของตัวเองแล้ว ยังเป็นเพราะในการเลือกตั้งปี 62 พรรคประชาธิปัตย์สูญเสียที่นั่งไปกับพรรคพลังประชารัฐ ไปถึง 3 เขต จาก 8 เขต แล้วยังมาเสียงเก้าอี้ในการเลือกตั้งซ่อม เมื่อต้นปีไปอีก 1 เขต กลายเป็นประชาธิปัตย์เหลือแค่ 4 ที่นั่ง หรือเหลือเพียงครึ่งเดียว จากที่เคยครองยกจังหวัดตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา หรือ เลือกตั้งมา 6 ครั้งชนะรวดหมด ยกเว้นครั้งที่ 7 ในปี 62 

 

ศึกชิง"รองหัวหน้า ปชป.ภาคใต้"จุดตัดใหม่ของพรรคเก่าแก่

 

 

สำหรับคู่แข่งของ "ชินวรณ์" คือ "เดชอิศม์ ขาวทอง" หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "นายกชาย" ปัจจุบันเป็น ส.ส.เขต 5 สงขลา

 

ประวัติย่อๆ ของ "นายกชาย"

 

- ชื่อเดิม วรวิทย์ ขาวทอง เป็นชาว อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

 

-ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขายส่งเหล็ก โรงแรม-รีสอร์ท

 

-ทรัพย์สิน 684 ล้านบาท หนี้สิน 2.6  ล้านบาท

 

-เคยเป็นนายก อบจ.สงขลา ทำให้ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "นายกชาย"

 

-2548 ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคไทยรักไทย แต่แพ้พรรคประชาธิปัตย์

 

-2551 ลงสมัคร นายก อบจ. สงขลา แต่พ่ายให้กับ นวพล บุญญามณี หัวหน้าทีมสงขลาพัฒนา

 

-2562 ลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนได้รับชัยชนะ เป็นผู้แทนสมัยแรก

 

ถ้านับเรื่องประสบการณ์ในสภาใหญ่ ต้องบอกว่า "นายกชาย" เทียบไม่ได้เลยกับ "ชินวรณ์" เนื่องจากเป็น ส.ส. 1 สมัย กับ 9 สมัย แต่งานนี้ประมาท "นายกชาย" ไม่ได้เด็ดขาด เพราะได้รับแรงหนุนจากฟากฝั่ง New Concept ที่นำโดย เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ อดีต ส.ส.พิจิตร ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มเลือดใหม่ แม้จะไม่ใช่คนรุ่นใหม่ที่อายุน้อย แต่สำหรับในประชาธิปัตย์ ก็คือกลุ่มเลือดใหม่ มีแนวคิดการบริหารงานอีกแบบหนึ่ง แตกต่างจากแบบเดิม

 

ศึกชิง"รองหัวหน้า ปชป.ภาคใต้"จุดตัดใหม่ของพรรคเก่าแก่

 

มีข้อมูลเชิงวิเคราะห์จากศูนย์ข่าวภาคใต้ เนชั่นทีวี มองว่า ศึกชิงเก้าอี้รองหัวหน้าพรรคภาคใต้หนนี้ ห้ามมองข้าม "นายกชาย" เพราะบารมีไม่ได้เบ่งบานแค่ในสงขลา หรือในพรรคประชาธิปัตย์ แต่สถานะเป็นผู้กว้างขวางตัวจริง ทั้งในพรรค ข้ามพรรค ด้วยบุคลิก "ใจถึง พึ่งได้" ทำให้หลายคนนึกถึงอดีตนักการเมืองรุ่นใหญ่ใจนักเลงอย่าง "จองชัย เที่ยงธรรม" อดีต ส.ส.ผูกขาดของพรรคชาติไทยในสุพรรณบุรี

 

ที่สำคัญ นายกชาย เป็นสายตรง "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" เลขาธิการพรรค เรียกว่าเป็น "ก๊วนเดียวกัน" และไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับหัวหน้า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แถมยังเตรียมส่งภรรยาลงชิงเก้าอี้ ส.ส.สงขลาเขต 6 แทน ถาวร เสนเนียม ที่ขาดสมาชิกภาพไป ซึ่งถ้าชนะ ก็เท่ากับขยายฐานการเมืองได้มากขึ้น จากเดิมที่รักษาฐานเดิมทั้งท้องถิ่นและระดับชาติไว้อยู่แล้ว

 

ส่วนความขัดแย้งภายในที่จะตามมาหรือไม่นั้น มีเสียงปรามจากปูชนียบุคคลผู้มากบารมีของพรรค อย่าง "ชวน หลีกภัย" ที่พูดเอาไว้เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า "ทุกครั้งก็ต้องแข่งขัน แต่จบได้ง่าย เพราะเข้าใจกัน ว่าหลังแข่งขันแล้วก็มาทำงานร่วมกันได้ พยายามแนะนำว่าการเมืองเป็นอย่างนี้ ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีศักยภาพที่จะทำงาน ซึ่งผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ต้องหาหนทางแก้ไข ในอดีตเคยมีช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำมากกว่านี้มาก แต่ตอนหลังก็ฟื้นกลับมาได้หมด"

 

พรรคประชาธิปัตย์จึงเดินมาถึงทางแยกสำคัญว่าจะเลือกเดินตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม คือ ยึดอาวุโสและพรรษาการเมือง หรือจะเลือกแนวทางการบริหารของเลือดใหม่ เพื่อฟื้นความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม หรือกว่าเดิม

 

logoline