ศาลรัฐธรรมนูญประหารชีวิตการเมือง 5 กปปส.?

1.พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งในกลุ่มนี้มี 3 คน ได้พ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว คือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พุทธิพงษ์​ ปุณณกันต์ และ ถาวร เสนเนียม เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 160 เขียนไว้ชัดเจนว่า "รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ"

นี่คือความโหด และเข้มข้นของรัฐธรรมนูญปี 60

2.ปัญหายังไม่จบแค่นั้น เนื่องจากคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ก็เขียนไว้กำกวมว่า "เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง..."

ถ้าเคยจำคุกมา และพ้นโทษยังไม่ถึง 10 ปี ก็ลงสมัคร ส.ส.ไม่ได้ โดยกฎหมายไม่ได้เขียนว่าคดีต้องถึงที่สุด แบบนี้คดีของ 5 กปปส. ก็อาจเข้าข่าย และต้องรออีก 10 ปี ถึงจะลงสมัคร ส.ส.ได้ ซึ่งไม่นับกรณีที่คดีถึงที่สุดในชั้นศาลฎีกา แล้วโดนจำคุกจริง ก็ต้องนับ 10 ปีหลังจากพ้นโทษตอนนั้น 

โดย ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวกับ "ข่าวข้นคนข่าว" ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนไม่ชัด เพราะลักษณะต้องห้ามเขียนแค่ว่า "เคยได้รับโทษจำคุก" จึงเหมือนเป็นการตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต หรือต้องรอให้พ้น 10 ปี แต่พ้น 10 ต้องรอการจำคุกรอบไหน

ทั้งนี้ แต่ที่แน่ๆ คือ ถ้าเคยต้องโทษจำคุก และพ้นโทษยังไม่เครบ 10 ปี จะไม่สามารถจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองได้เลย และเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ด้วย เมื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้ ก็ลง ส.ส.ไม่ได้อยู่ดี ฉะนั้นแกนนำ กปปส. ถ้าจะมีสิทธิ์ทำได้ ก็แค่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง และเชื่อว่าเรื่องนี้จะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความต่อไป

ขณะที่ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า อดีตแกนนำ กปปส. 5 คน มีอยู่ 3 คนถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งมีผลทันที แม้คดียังไม่สิ้นสุด ฉะนั้นตลอดระยะเวลา 5 ปี ทั้ง 3 คน จะไม่สามารถลงเล่นการเมืองได้เลย

อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าหากพ้น 5 ปีนี้แล้ว จะลงเล่นการเมืองหรือสมัคร ส.ส. ก็ต้องไปดูที่ความผิดทางอาญาว่าได้มีคำตัดสินถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ถ้าหากคดีถึงที่สุด และโดนโทษจำคุก ก็ต้องรอพ้นโทษ 10 ปีจึงจะลงเล่นการเมืองได้อีก