วันนี้ (8 ธ.ค.) นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.แบบแบ่งเขต จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้ 5 แกนนำม็อบ กปปส. พ้นสภาพความเป็น ส.ส. ทั้งหมด พร้อมให้จัดเลือกตั้งใหม่เขต 1 ชุมพร , สงขลา เขต 6 ขณะส.ส.บัญชีรายชื่อเลื่อนบัญชีอื่นขึ้นแทน (อ่านรายละเอียด) ว่า แม้ตนจะยอมรับโดยหลักการ แต่เหตุผลตนไม่เชื่อถือ เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ระบุว่า เปิดโอกาสให้ศาลพิจารณาคดีในสมัยการประชุมได้ แต่จะไปขัดขวางการทำหน้าที่ไปประชุมของสมาชิกไม่ได้ ศาลรัฐธรรมนูญเขียนคำวินิจฉัยเอาไว้ว่า เมื่อพิพากษาเสร็จแล้ว ไม่ใช่กระบวนการพิจารณา
เพราะฉะนั้นจะนำมาตรา 125 วรรคสี่มาบังคับใช้ไม่ได้ จึงอยากถามกลับไปว่าการใช้ดุลยพินิจในการให้ประกันตัว ส่งคดีไปยังศาลอุทธรณ์ การใช้ดุลยพินิจในการไม่ให้ประกันตัว นั่นเขาเรียกว่าอะไร เขาไม่เรียกว่ากระบวนการพิจารณาโดยใช้ดุลยพินิจของศาลหรือ
นายถาวร กล่าวว่า แต่เมื่อศาลใช้แนวทางอย่างนี้ต่อไป ถ้าหากว่าฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐจับกุุม ส.ส. สัก 20 คน ขังสัก 1 นาที ส.ส. เหล่านั้นก็จะขาดการเป็นสมาชิกภาพ ไม่สามารถประชุมลงมติไม่ได้ ก็จะมีการกลั่นแกล้ง แนวทางนี้ขอความกระจ่างจากศาลรัฐธรรมนูญในการใช้ทัศนคติ วิสัยทัศน์ในการมองการณ์ไกลสำหรับวงการการเมือง อย่างไรก็ตามตนยอมรับโดยดุษฎีภาพ ซึ่งตนจะไปร้องแรกแหกกระเชอไม่ได้
"ด้วยน้ำตาตกใน ด้วยอกระทม ด้วยความเจ็บปวด ที่ไม่มีคำบรรยายใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะบอกพี่น้องประชาชนพรรคประชาธิปัตย์ บอกกรรมการบริหาร บอกบรรพบุรุษของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ผมสิ้นแล้ว สิ้นเกียรติยศที่จะเป็นสมาชิกพรรค ด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต้องกราบขออภัยที่ทำให้พรรคมัวหมอง ขอกราบขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคที่ทำให้ท่านผิดหวัง"