รายงานของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงระบุว่าการซื้อขายหุ้นของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ข่ายซากรุ๊ป ( Kaisa Group Holdings ) สัญชาติจีน ถูกระงับในวันพุธ (8 ธันวาคม)
การระงับการซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากแหล่งข่าวที่มีข้อมูลโดยตรงในเรื่องนี้บอกว่า ข่ายซาไม่น่าจะบรรลุเส้นตายในการชำระหนี้สินต่างประเทศมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคาร (7 ธันวาคม)
การไม่ชำระหนี้สินของข่ายซา จะผลักดันให้พันธบัตร 6.5% ของข่ายซา ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ถือหนี้สินต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน รองจากไชน่าเอเวอร์แกรนด์ เข้าสู่การผิดนัดการชำระหนี้ในทางเทคนิค ทำให้การผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรต่างประเทศของพวกเขามีมูลค่ารวมเกือบ 1 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์
ตามรายงานของบลูมเบิร์ก ข่ายซาเป็นบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่อันดับ 27 ของจีน แต่มีหนี้สินสกุลเงินดอลลาร์มากที่สุดรายหนึ่งในบรรดาบริษัทอสังหาฯ จีน
แหล่งข่าวอีกคนที่มีข้อมูลโดยตรงเปิดเผยว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ บรรดาผู้ถือพันธบัตรมากกว่า 50% ที่ครบกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 7 ธันวาคม ได้ส่งร่างเงื่อนไขการผ่อนผันให้ทางบริษัทพิจารณาในช่วงเย็นวันจันทร์ (6 ธันวาคม)
แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับสถานการณ์บอกกับสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อวันอังคารว่า คู่แข่งรายใหญ่กว่าอย่าง ไชน่าเอเวอร์แกรนด์ ก็ยังไม่ได้ชำระหนี้สินพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐบางส่วนเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการผ่อนผันนาน 1 เดือน เรื่องนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผิดนัดครั้งใหญ่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหนี้สินมากที่สุดในโลก
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้รับผลกระทบจากการบีบตัวของสภาพคล่อง ซึ่งรุนแรงขึ้นจากความกลัวว่าจะมีการผิดนัดของเอเวอร์แกรนด์ ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าผู้พัฒนาอสังหาฯ ของจีนรายอื่น ๆ อาจเผชิญกับวิกฤตหนี้ในอนาคต