"เครือข่ายสนับสนุนกองทัพประชาชน" (People's Army Supporters Network) ได้เริ่มการเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ด้วยการโพสต์รูปของภรรยาทหารที่ปิดบังตัวตน ถือป้ายมีข้อความต่าง ๆ เช่น "สามีของฉันไม่ได้เข้าร่วมกองทัพเพื่อเป็นลูกน้องเผด็จการ" และ "ลูก ๆ ของเราไม่อยากให้ผู้คนเกลียดชังพ่อของพวกเขา" ในขณะที่ครอบครัวทหารส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเฉย นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพราะกลัวจะถูกตอบโต้ทางการเงินหรือรูปแบบอื่น ๆ
รัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยระบอบประชาธิปไตย ยังไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างเรื่องการโกงการเลือกตั้ง และใช้แต่ความรุนแรงในการปราบปรามการประท้วงทั่วประเทศ ซึ่งสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองที่มีฐานอยู่ที่กรุงเทพฯ ระบุว่ามีผู้ถูกสังหาร 1,303 คน และถูกจับเกือบ 7,800 คน ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งภรรยาของทหารยศจ่านายหนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วงอารยะขัดขืน (CDM) บอกว่า...
"การกระทำของบรรดาผู้นำทหาร อาจทำลายชีวิตครอบครัวของเราได้ทุกเมื่อ ในความคิดของลูก ๆ พ่อของพวกเขาถูกประชาชนเกลียดชัง ถึงขนาดต้องการจะฆ่าให้ตาย และสิ่งนี้สามารถทำร้ายจิตใจพวกเขาได้"
"สิ่งที่เราเห็นมาโดยตลอดคือ ทหารไม่ได้ปกป้องประชาชนแต่ฆ่าพวกเขา และนี่คือเหตุผลที่เราต่อต้านรัฐบาลทหาร"
ภรรยาทหารคนนี้บอกด้วยว่าครอบครัวทหารถูกผู้บังคับบัญชาข่มขู่ ภรรยาของทหารทุกนายต้องยอมทนต่อสถานการณ์ที่บีบบังคับ เพราะสามีของพวกเธอไม่สามารถออกจากกองทัพได้ นายทหารคนหนึ่งจบจากสถาบันทหารและสังกัดหน่วย 54 และไปเข้าร่วม CDM บอกว่าเครือข่ายสนับสนุนกองทัพประชาชน เริ่มขึ้นโดยภรรยาทหารที่ต่อต้านผู้นำเผด็จการหลังการรัฐประหาร และระบบบัญชาการภายในกองทัพที่ไม่เป็นธรรม และตอนนี้มีทหารราว 2,000 นาย กับตำรวจ 6,000 นาย ที่เข้าร่วม CDM เพราะพวกเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทหาร และตอนนี้มีทหารมากกว่า 85% ที่มองว่าการรัฐประหารเป็นเรื่องที่ผิด แม้บางคนจะกลัวว่าชีวิตจะประสบหายนะ แต่เมื่อรู้ว่ามันผิดพวกเขาก็กล้าพอที่จะเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง