สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 อ้างการเปิดเผยของนายเขียว กัณหฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาว่า สำนักพระราชวังได้แจ้งว่า สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ พระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์ สิ้นพระชนม์ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส ขณะมีพระชนมายุ 77 ปี
ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาและภรรยารู้สึก "หัวใจสลาย" เมื่อได้ทราบข่าว และเรียกสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ว่า "ผู้ทรงเกียรติ สมาชิกราชวงศ์ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"
สมเด็จกรมพระนโรดม ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมากที่สุดในช่วงหลายสิบปีมานี้ และยังคงนำพรรคฟุนซินเปกลงสมัครรับเลือกตั้งในช่วงหลายปี ที่ผ่านมา แม้จะทรงอยู่ต่างประเทศ ทรงเคยนำพรรคฟุนซินเปก ชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2536 และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ร่วมกับฮุน เซน ผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) แต่ถูกฮุน เซน เข้ายึดอำนาจด้วยการก่อรัฐประหารนองเลือด เมื่อปี 2540 ทำให้ต้องเสด็จออกนอกประเทศเป็นการชั่วคราว จนกระทั่งปี 2546 ฮุน เซน ชนะเลือกตั้งทั่วไป
แต่ได้คะแนนไปไม่ถึง 2 ใน 3 ทำให้ต้องทำข้อตกลงกับพรรคฟุนซินเปก เมื่อปี 2547 เพื่อปลดล็อกภาวะชะงักงันทางการเมือง และเขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และอยู่ในอำนาจมายาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งตอนที่กลับไปจับมือกับฮุน เซน
สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ทราบดีว่าทำให้ฝ่ายตรงข้ามฮุน เซน ผิดหวัง แต่ก็บอกว่า "ฮุน เซน ไม่ว่าคุณต้องการหรือไม่ คุณชอบเขาหรือไม่ แต่เขานำมาซึ่งความสามัคคีในชาติ"
เมื่อปี 2561 สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ บนถนนแห่งชาติหมายเลข 4 ที่เขตเปรยนุบ จังหวัดพระสีหนุ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ส่วนหม่อมอู๊ก พัลลาพระชายาวัย 39 ปี ซึ่งประทับในรถคันเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่กรรมในเวลาต่อมา
ด้านชาวกัมพูชาได้รู้สึกเสียใจและเสียดายที่พระองค์ไปสิ้นพระชนม์ที่ฝรั่งเศส แทนที่จะเป็นกัมพูชา