องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนว่า ยุโรปและบางส่วนของเอเชีย อาจมีผู้คนเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 700,000 รายภายในเดือนมีนาคม
นอกจากประเทศในยุโรปแล้ว องค์การอนามัยโลกยังถือว่าอิสราเอลและอดีตสหภาพโซเวียต เช่น ทาจิกิสถานและอุซเบกิสถาน ก็เป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคยุโรปด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 1 ล้าน 5 แสนคนแล้วใน 53 ประเทศที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าเป็นภูมิภาคยุโรป
องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนถึง "ความตึงเครียดสูง หรือรุนแรง" ในหอผู้ป่วยหนักของ 49 ประเทศภายในเดือนมีนาคม 2565
ยุโรปกำลังเผชิญกับการที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระตุ้นให้ออสเตรียต้องกลับสู่การล็อกดาวน์ และอีกหลายประเทศก็ได้พิจารณามาตรการใหม่ ๆ ออกมารับมือ
อีกไม่นาน หลายประเทศ รวมทั้งฝรั่งเศส เยอรมนี และกรีซ อาจจะกำหนดให้พลเมืองของตนต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบ
แต่หลายประเทศต้องเจอกับการประท้วงที่รุนแรงต่อมาตรการใหม่ ๆ อย่างที่เนเธอร์แลนด์เกิดเหตุจลาจลหลายคืนติดต่อกัน จากมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน
ในการประเมิน ทาง WHO เตือนว่าโควิด-19 จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคยุโรป
WHO บอกเมื่อวันอังคาร ( 23 พฤศจิกายน ) ว่า “รายงานผู้เสียชีวิตสะสม คาดว่าจะสูงถึง 2 ล้าน 2 แสนคนภายในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า โดยอิงจากแนวโน้มในปัจจุบัน”
การยืนยันการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เป็นเกือบ 4,200 รายต่อวัน
ในรัสเซียประเทศเดียว ยอดผู้เสียชีวิตรายวันพุ่งสูงถึง 1,200 ราย
องค์การอนามัยโลกบอกว่าตัวเลขของผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจำนวนมาก และความชุกของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในบางประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังอัตราการแพร่เชื้อที่สูงในภูมิภาคยุโรป
ดร. ฮันส์ คลุก ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำยุโรป เรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้ไปรับการฉีดวัคซีน
“พวกเราทุกคนมีโอกาสและความรับผิดชอบในการช่วยป้องกันโศกนาฏกรรมและการสูญเสียชีวิตที่ไม่จำเป็น และจำกัดการหยุดชะงักทางสังคมและธุรกิจเพิ่มเติมในช่วงฤดูหนาวนี้”