จากกรณีที่รัฐสภามีการลงมติพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่เสนอโดย กลุ่ม Re-solution ที่มี 2 แกนนำหลักคือ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า-อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม
ซึ่งรัฐสภามีรับหลักการ 206 ไม่รับ 473 คะแนน งดออกเสียง 6 เสียง ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวต้องตกไป
โดยการลงมติครั้งนี้มีเสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ถึง 3 เสียงที่ลงมติรับหลักการแม้เป็นรัฐธรรมที่มีเนื้อหาโละการมีอยู่ออกไปของส.ว. ทั้งหมด ได้แก่ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นายมณเฑียร บุญตัน และนายพิศาล มาณวพัฒน์
นายมณเฑียร บุญตัน หนึ่งใน ส.ว. ที่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ระบุว่า สาเหตุที่รับหลักการในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เนื่องจากให้เกียรติเสียงประชาชนและเห็นด้วยกับกระบวนการในการลงชื่อสนันสนุนของประชาชน รวมถึงมองว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะไม่ผ่านการพิจารณาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ทั้งนี้ยืนยันว่าในร่างรัฐธรรมนูญยังมีอีกหลายอย่างที่ตนเองไม่เห็นด้วย รวมถึงข้อเสนอให้โละ ส.ว. ทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าตนเองจะไม่เดือดร้อนกับการที่จะไม่มี ส.ว. แต่คิดว่าขณะนี้ประเทศไทยยังจำเป็นต้องมี ส.ว.อยู่ เพราะว่า เมืองไทยมีความต่างกันในเชิงอุดมการณ์ทางการเมืองค่อนข้างมาก การมีส.ว. ก็มีประโยชน์ เปรียบเป็นกันชนให้กับการเห็นต่างในการทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายหลายเรื่องให้มันไม่แรง
ทั้งนี้คิดว่าส.ว.ที่หลายท่านอาจไม่ชอบเพราะมาจากการแต่งตั้งก็จะอยู่ได้อีก 2 ปีเศษ จากนั้นก็จะมี ส.ว. ใหม่จากการเลือกกันเอง จากกลุ่มต่าง ๆซึ่งคนกลุ่มเหล่านนี้ก็จะเป็นตัวสะท้อนความหลากหลายอีกชนิดหนึ่งเหมือนกับ ส.ส.
แต่ถามว่าถ้าไม่มี ส.ว. เลยมันจะเป็นสิ่งมี่ผมลำบากใจไหมก็ไม่นะ แต่ผมเชื่อว่าการมีก็ยังมีประโยชน์อยู่
“เอาเป็นว่าผมไม่ได้รู้สึกรุนแรงกับการมีหรือไม่มีวุฒิสภา ผมเห็นประโยชน์ของการมีวุฒิสภาตราบใดที่สังคมไทยยังมีความแตกต่างรุนแรงกันทางอุดมการณ์การทางการเมืองค่อนข้างมาก ส.ว. ก็น่าจะป็นที่รองรับความหลากหลายนั้น จริง ๆเราพยายามออกแบบให้ส.ว.ไม่สักกัดพรรคการเมือง พยายามให้สะท้อนความหลากหลายแต่ว่ายังไปไม่ถึงจุดนั้นอาจจะเป็นด้วยช่วงจังหวะทางการเมืองก็เลยเป็นอย่างนี้”
"ถ้าถามว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านจะตนเองจะเดือดร้อนไหมคงไม่ ไม่ได้ถึงขนาดรู้สึกรุนแรงกับเรื่องนี้ เพราะถ้าสังคมไม่เอาก็คงอยู่ไม่ได้ "