จากการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตของนายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (พลเอประยุทธ์ จันทร์โอชา) และประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งได้มีการหารือร่วมกับนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายพิเชษฐ์ ปานะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,
นายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ต, นพ.บัญชา ค้าของ รองประธานคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตและที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.ภูเก็ต, น.ส.นันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานภูเก็ต และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับการดำเนินโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รวมถึงการต่อยอดโครงการ เพื่อสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้มีการนำเสนอแผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และจากการวิเคราะห์โครงสร้างเศรษฐกิจของภูเก็ต พบว่าเป็นเศรษฐกิจเสาเดียว คือ มีรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการสูงถึง 95 %
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ดังนั้นทำอย่างไรจะทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตยั่งยืน โดยเฉพาะการเพิ่มเสาเศรษฐกิจที่มีเพียงเสาเดียว โดยต่อยอดจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หนึ่งใน 10 เสาเศรษฐกิจดังกล่าว คือ เมดิคัลฮับ หรือศูนย์กลางการดูแลสุขภาพ ที่ได้เคยนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีไปแล้ว
นายณรงค์ กล่าวว่า จากความสำเร็จของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และเพื่อเป็นการต่อยอดโครงการดังกล่าว จึงเตรียมนำเสนอโครงการภูเก็ตเฮลท์แซนด์บ็อกซ์ต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่ จ.กระบี่ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้จากการดูแลสุขภาพของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภูเก็ต และยกระดับการดูแลสุขภาพของคนภูเก็ตโดยรวมทั้งระบบ ตั้งแต่กลุ่มฐานรากที่ยังเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขด้วยการยกระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล หรือ รพ.สต.ทั้ง 21 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลระดับอำเภอดูแลรักษาโรคทั่วไป ดูแลโดย อบจ.ภูเก็ต ซึ่งจะรับโอนมาจากกระทรวงสาธารณสุข
พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณเข้ามาดำเนินการบางส่วนและงบจากรัฐบาลบางส่วน นับเป็นพื้นที่แรกของประเทศที่ดำเนินการลักษณะเช่นนี้ ส่วนของโรงพยาบาลระดับอำเภอจะยกระดับเป็นโรงพยาบาลจังหวัด และ โรงพยาบาลประจำจังหวัด คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จะยกระดับเป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
รวมถึงการทำงานวิจัยต่างๆ และการดูแลสุขภาพคนภูเก็ตด้วยเทคโนโลยี นอกจากนี้จะมีการกระจายจุดบริการสาธารณสุขให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านและชุมชน ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนจะดูแลคนภูเก็ตที่มีความพร้อมในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลในระดับที่สูงขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาล
อย่างไรก็ตามในคราวเดียวกันนี้ยังได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสาธารณสุขทุกระดับของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทการบูรณาการระบบสุขภาพจังหวัดภูเก็ตด้วย
ภาพ/ข่าว โดย : สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต