เผยใช้โดรน 3 ลำ หวังปลิดชีวิตนายกฯอิรัก
โดรน 3 ลำถูกส่งมาเพื่อลอบสังหารนายกรัฐมนตรีอิรัก แต่ถูกสกัดไปได้ 2 ลำ และอีก 1 ลำที่เหลือก็สามารถถล่มบ้านพักของนายกรัฐมนตรีได้ แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
กระทรวงมหาดไทยอิรักระบุว่าความพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดฮีมี ของอิรักในช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ ( 7 พฤศจิกายน ) มีการนำโดรนมาใช้จำนวน 3 ลำ พร้อมกับระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็น “การโจมตีของผู้ก่อการร้าย”
กระทรวงบอกว่าโดรน 2 ลำถูกใช้ร่วมในการโจมตีที่พักของนายกรัฐมนตรีในเขตกรีนโซนของกรุงแบกแดด ถูกยิงตก ขณะที่อีกหนึ่งลำ สามารถบินมาโจมตีถึงบ้านได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางคนได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด รวมถึงตัวนายกรัฐมนตรี
พล.ต.ซาอัด มาน หัวหน้าแผนกสื่อของกระทรวงบอกกับสื่ออิรักว่า กระทรวงจะ “สอบสวนอย่างกว้างขวาง” และใช้ “ทรัพยากรและความพยายามทั้งหมดเพื่อจับตัวผู้กระทำความผิด”
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงแบกแดดเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อพรรคการเมืองและกองกำลังติดอาวุธของชาวชีอะห์ ที่โปรอิหร่าน พบว่าตัวแทนของพรรคที่ได้เข้าสู่สภาลดลงอย่างมากถึง 2 ใน 3 พวกเขาอ้างว่าบัตรลงคะแนนของพวกเขาถูกโกง ขณะที่การประท้วงก็เต็มไปด้วยความรุนแรง ผู้ประท้วงมีการปะทะกับกองกำลังรักษาความปลอดภัย ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และสงสัยกันว่าผู้ประท้วงเสียชีวิตหลายราย ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนก็ตั้งค่ายอยู่นอกกรีนโซนเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว การพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรีจึงเท่ากับเป็นการเพิ่มความตึงเครียดครั้งใหญ่ให้กับประเทศ
หลังมีการเปิดเผยเรื่องการโจมตีได้ไม่นาน นายกรัฐมนตรีก็ได้ทวีตเพื่อให้มั่นใจกับประชาชนว่าเขาไม่ได้รับอันตราย: " ผมสบายดี ขอบคุณพระเจ้า รวมถึงผู้คนของผมด้วย และผมเรียกร้องขอความสงบและการยับยั้งชั่งใจเพื่อประโยชน์ของอิรัก"
ต่อมา ในการแถลงสั้น ๆ ที่บันทึกเอาไว้ล่วงหน้า และถูกนำออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อิรัก นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยกย่องกองกำลังความมั่นคงที่ “ทำงานเพื่อทำให้อิรักมีเสถียรภาพ” และประกาศว่า "การโจมตีด้วยจรวดและโดรนที่ขี้ขลาดไม่ได้สร้างชาติและไม่สร้างอนาคต เรากำลังดำเนินการเพื่อสร้างชาติ เรื่องการเคารพรัฐและสถาบันต่าง ๆ เพื่อการรักษาอนาคตที่ดีกว่าสำหรับชาวอิรักทุกคน ผมขอเรียกร้องให้ทุกคนสำหรับการเจรจาอย่างสันติ เพื่ออิรัก และเพื่ออนาคตของอิรัก”
ขณะที่นักวิจารณ์บางคนสงสัยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นเรื่องที่กุขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชนจากการปราบปรามผู้ประท้วง ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านอ้างว่าการโจมตีสามารถสืบย้อนไปถึง “รถถังต่างชาติ” ที่พยายามทำให้อิรักไม่มีเสถียรภาพ
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิรัก 2 คนบอกกับสำนักข่าวต่างประเทศว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 7 คนของนายกรัฐมนตรีได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี
ระหว่างเกิดเหตุ ผู้อยู่อาศัยในแบกแดดได้ยินเสียงระเบิดตามมาด้วยเสียงปืนอย่างหนัก ที่ลอยมาจากทิศทางของเขตกรีนโซน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างประเทศและสำนักงานรัฐบาล และมีการป้องกันแน่นหนา
ปัจจุบันยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตี
