ลุงหึงสาวหิ้วฟักทองแจกญาติ ฟันคอญาติดับกลางทุ่งนา

กรณีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ทุ่งมน ต.ประทัดบุ อ. ปราสาท ว่ามีเหตุใช้อาวุธมีดฟันทำร้ายร่างกายกันตายที่ ทุ่งนา เขตหมู่บ้านหนองยาว ม.2 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนา พบศพผู้ชาย 1ราย ชื่อนายเลือก สืบสวน อายุ 58 ปี ที่อยู่ 125 ม.2 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ สภาพศพผู้ตายสวมเสื้อสีน้ำเงินสวมหมวกปีกนอนหงายมีรอยฟันที่บริเวณลำคอด้านขวายาวประมาณ 13 เซนเป็นแผลลึกฉกรรจ์ เลือดไหลนองในที่เกิดเหตุ บริเวณใกล้ๆพบเคียวเกี่ยวข้าว 1 เล่ม ในที่เกิดเหตุพบนาง สมบัติสืบสวนเป็นภรรยาของผู้ตาย นั่งร้องไห้อยู่ที่เกิดเหตุ

วันที่ 6 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านนายเลือก สืบสวน (ผู้ตาย)ซึ่งภายในบ้านกำลังจัดงานศพของนายเลือก และได้พบกับนาง สมบัติ สืบสวน(ภรรยาผู้ตาย)(สวมเสื้อสีดำ) อายุ 55 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ช่วงเวลาบ่าย ตนเองกับนายเลือก สามี พากันออกไปเกี่ยวข้าวที่ทุ่งนาใกล้บ้าน จังหวะนั้นนางสุพัด ลันพู(หรือนางภาพ) เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ได้แวะเอาฟักทอง 2 ลูกมาให้ตนและสามี โดยตนเองได้มีการไล่นางภาพออกไปจากนา เพราะไม่อยากจะยุ่งสุงสิงด้วย และไม่อยากรับฟักทองเอาไว้ เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น เพราะว่านางภาพไปรู้จักกับ นายเวียน มั่งคั่ง (ผู้ก่อเหตุ) อายุ61 ปี เขาทั้งคู่มีลักษณะพูดคุยกันอยู่(ผู้ก่อเหตุ และนางภาพมีความสัมพันธ์ทางชู้สาว) นางภาพเป็นสาวม่าย ส่วนภรรยาของนายเวียนไปทำงานเลี้ยงลูกอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ทุกครั้งที่นางภาพไปยุ่งสุงสิงกับใคร ก็มักจะเกิดเรื่องขึ้นตลอด เพราะนายเวียนเป็นคนอารมณ์ร้อน และค่อนข้างหึงหวง ไม่อยากให้นางภาพไปยุ่งกับใคร โดยเฉพาะกับผู้ชาย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นายเวียนขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านมา เห็นว่านางภาพเอาฟักทองมาให้ตนเองกับสามี จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด นายเวียนเดินเข้ามากระชากผมของนางภาพจนกระทั่งล้มลงบนพื้น

จากนั้นก็พยายามบีบคอนางภาพ และนางภาพหันไปหยิบเอาเคียวเกี่ยวข้าวหวังจะทำร้ายนายเวียน แต่นายเวียนแย่งไปได้กำลังจะใช้ก่อเหตุฟันนางภาพ แต่พอดีว่าเคียวเกี่ยวข้าวหลุดมือไปก่อน จากนั้นตนเองกับนายเลือกสามีได้เข้าห้าม ขอร้องโดยการยกมือไหว้ ไม่ให้ทำร้ายกัน จากนั้นนายเวียนจึงเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ หยิบมีดพร้าที่อยู่ที่รถจักรยานยนต์มาเหน็บไว้กับเอว แล้วย้อนกลับมาที่กลางทุ่งนาอีกครั้ง แล้วใช้สันมีดพร้าทุบมาที่หัวตนนั้นอย่างแรง ทำให้นายเลือกสามีของตนไม่พอใจมีการต่อว่านายเวียนคนก่อเหตุ นายเวียนผลักสามีตนล้มลงบนพื้น ตนจึงไปหยิบเอาไม้ฟืนละแวกนั้น มาทุบหัวนายเวียน 5 ครั้ง นายเลือก สามีจึงยกมือช้ายขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “พอ ๆ พอแล้ว” จังหวะนั้น นายเวียนจึงฟันเข้าที่ชายโครงซ้าย1ครั้งโดนเสื้อ ฟันช้ำที่คอสามีตนอีก 2ครั้ง ตนเห็นเช่นนั้นจึงใช้ไม้ฟาดนายเวียนเพื่อให้หยุดทำร้ายสามี โดยมีการใช้ไม้ฟาดไปที่หัวไหล่ 2 ข้าง ข้างละ 2 ที แขน 2 ข้างข้างละ 1 ที ฟาดหลัง 2 ที และฟาดขา 2 ข้าง ข้างละ 2 ที จนกระทั่งนายเวียนล้มลงและหยุดก่อเหตุ จากนั้นไม่นานก็รีบวิ่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ขับรถหนีออกไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเลือก สามี และตนเองไม่เคยมีเรื่องหรือทะเลาะมีปากเสียงอะไรกับนายเวียน แต่เกิดจากความเข้าใจผิด ที่นางภาพเอาฟักทองมาให้ แต่ดันมีผู้ชายอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทำให้นายเวียนเกิดความเข้าใจผิด ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แม้ว่าล่าสุดนายเวียนจะถูกตำรวจจับแล้วก็ตาม ตนเองก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ลูกชายและลูกสาวก็ยืนยันว่าอยากจะเอาผิดให้ถึงที่สุด ติดคุกให้นานที่สุด เพราะยังรู้สึกโกรธกับการกระทำที่มีการฆ่ากันจนถึงตาย และโกรธนางภาพมากที่มาวุ่นวายจึงเกิดเรื่องขึ้น ถ้านางภาพไม่มาก็คงไม่มีเหตุฆ่ากันตายเช่นนี

ด้านนางสาว ฉวีวรรณ ทรงสมมี อายุ 52ปี เป็นอสม.ประจำ ต.ประทัดบุ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูที่เกิดเหตุและเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันที่เกิดเหตุช่วงประมาณเที่ยง ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้นที่ทุ่งนา ตนจึงไปยังที่เกิดเหตุ พบนายเลือก สืบสวน (ผู้ตาย) นอนจมกองเลือดอยู่ที่กลางทุ่งนาโดยมีนางสมบัติ สืบสาน (ภรรยาคนตาย) อยู่ในที่เกิดเหตุ ตนจึงได้ช่วยกันพานายเลือก (คนตาย)เดินขึ้นมายังโรงเก็บฟางข้างทุ่งนา และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตนก็ได้นำแมสจำนวนหลายแผ่นมาช่วยแปะแผลที่บริเวณลำคอของนายเลือก เพราะมีเลือดออกจำนวนมาก มีแผลถูกฟันลึกที่คอเป็นทางยาว ตัดถึงหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่ ตนจึงเอาแมสมาอุดแผลดังกล่าวไว้เพื่อไม่ให้เลือดออกเยอะ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่มาทำการรักษา ส่งต่อไปยังโรงพยาบาล แต่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมา นายเลือก (ผู้เสียชีวิต) ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ขณะที่ พ.ต.อ.สินธุ ชั้นไพบูลย์ ผกก.สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทางผู้ต้องหามีอาการเครียดมาก พร้อมกับจะนำไปทำแผนรับคำสารภาพ แต่ก็ไม่ได้พาไปเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์เกิดขึ้นจึงไม่ได้นำไปทำแผน และทางผู้ต้องหาและทางญาติ ได้ตั้งทนายสู้ในชั้นศาลอีกด้วย

โดย วิจิตร ชุณหกิจขจร