3 พฤศจิกายน 2564 น.ส ดาว (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาวบางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินจำนวน 146,700 บาท ภายในระยะเวลาแค่ 7 วัน ให้กับชายคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชัน ทินเดอร์ (Tinder) ซึ่งแอปดังกล่าวเป็นแอปสำหรับหาเพื่อนคุย หาแฟน ที่ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์อย่างมาก
โดยหญิงสาวผู้เสียหายรายนี้เปิดว่า ตนได้เล่นแอปที่ชื่อทินเดอร์เพื่อหาเพื่อนคุยมาได้สักพัก จนกระทั่งวันที่ 15 ต.ค.64 ที่ผ่านมา นายพิภัทร (สงวนนามสกุล) ได้ทักมาหาตนเองจากแอปดังกล่าวและได้เริ่มมีการพูดคุยกันโดยนายพิภัทร อ้างตัวว่าทำงานเป็นวิศวกรก่อสร้าง จบมาจากมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
หลังพูดคุยผ่านแอปดังกล่าวได้สักพักนายพิภัทร ก็ได้ขอแอดไลน์ของตน เพื่อที่จะได้แชทคุยกันได้สะดวก ตนจึงให้แอดไลน์ส่วนตัวไปกับนายพิภัทรไป หลังจากนั้นก็มีการสนทนาพูดคุยกับนายพิภัทร ต่อมานายพิภัทรก็ได้ขอให้ตนปักหมุดส่งที่อยู่ให้ โดยอ้างว่าจะซื้อกุ้งมาให้ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่านายพิภัทร จะซื้อกุ้งมาให้ตนจริงๆ จึงส่งโลเกชั่นที่บ้านให้ไป
ผู้เสียหายหญิงสาว เล่าต่อว่า ต่อมาวันที่ 17 ต.ค.64 นายพิภัทร ได้โทรเข้ามาหาตนและขอให้ตนโอนเงินจำนวน 2,000 บาท ให้โดยอ้างว่าจะนำไปทำเรื่องเบิกซื้อของ ซึ่งตนก็เห็นว่าไม่ใช่เงินจำนวนมากจึงโอนเงินให้ไป ต่อมาในวันเดียวกันช่วงเย็นๆ นายพิภัทร ก็ได้โอนเงินคืนกลับมาให้ตน 2,000 บาทที่ยืมไป โดยว่าทางเสมียนบริษัททำบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องใช้เงินที่ตนโอนให้แล้วจึงโอนคืนกลับมาให้
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันนั้นนายพิภัทร ก็ได้โทรมาขอยืมเงินอีกจำนวน 1,700 บาท โดยอ้างว่าจะโอนเงินไปให้ลูกน้องแต่ในบัญชีไม่มีเงิน มีแต่เงินสดพร้อมกับถ่ายรูปเงินสดโดยมีแบงก์พันหลายใบให้ตนดู ตนเห็นว่านายพิภัทรซึ่งเพิ่งยืมเงินไปแล้วโอนคืนมา คงไม่หลอกลวงหรือมาโกงเงินแค่นี้กับตนจึงตัดสินใจโอนเงินจำนวน 1,700 บาทให้ไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นตนก็ได้มีการพูดคุยกับนายพิภัทร เรื่อยมาทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว โดยนายพิภัทร ได้อ้างถึงหน้าที่การงานตำแหน่งวิศวกรให้ดูน่าเชื่อถือมาก โดยตนยังได้มีการวิดีโอคอลคุยกันเรื่อยมา จนทำให้ตนเชื่อใจและไว้ใจ แต่ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันนายพิภัทรก็จะขอยืมเงินตลอด ซึ่งตนก็โอนให้ทุกครั้ง ครั้งละหลายพันไปจนถึงหลักหมื่น จนโอนครั้งที่ให้เยอะสุด จำนวน 36,000 บาท โดยนายพิภัทร อ้างว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปทำเรื่องเบิกเงินตกค้างจำนวน 150,000 บาท ซึ่งเมื่อได้เงินจำนวนนี้มาแล้วก็จะนำมาใช้หนี้ที่ยืมตนไป ด้วยความที่ตนอยากได้เงินคืนจึงได้โอนให้นายพิภัทร ไปอีก
หญิงสาวรายนี้ เปิดเผยอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ต.ค.64 ตนเริ่มรู้สึกเอะใจ ในตัวนายพิภัทร จึงได้นำเลขที่บัญชีของนายพิภัทร ที่ให้ตนโอนเงินไปให้ ทั้งหมดทุกบัญชีทุกธนาคารซึ่งเป็นชื่อของนายพิภัทร ไปตรวจเช็คทางเว็บไซต์ ก็พบว่าเลขที่บัญชีที่ตนโอนให้นั้นเป็นเลขที่บัญชีของคนที่มีประวัติการโกงต่าง ๆ ซึ่งคนที่เคยถูกนายพิภัทร หลอกโกงเงินไปได้มาโพสต์เตือนภัยไว้ ทำให้ตนรู้ตัวแล้วว่าถูกนายพิภัทรมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ หลอกยืมเงินเข้าแล้วจึงได้แคปหน้าจอและนำไปถามกับนายพิภัทร แต่นายพิภัทรบ่ายเบี่ยงแล้วอ้างว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเขาถูกน้องชายยืมบัญชีไปทำเรื่องเสียหายไว้
ต่อมาในวันที่ 24 ต.ค.64 นายพิภัทร ได้โทรมาหาตนและบอกว่าตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีเรื่องทะเลาะกับลูกน้องที่ทำงาน ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาอีกให้ตนโอนเงิน 8,000 บาท ไปให้ที ทำให้ตนบอกกับนายพิภัทรว่าจะไปหาที่โรงพยาบาล แต่นายพิภัทรก็ปฏิเสธไม่ให้มา จนเมื่อช่วงเย็นต่อมานายพิภัทร ได้มาหาตนที่หน้าบ้านโดยอ้างว่าหนีออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อออกมาเอาเงินค่ารักษากลับไปจ่ายที่ รพ. ซึ่งตอนนั้นตนบอกกับนายพิภัทรว่าไม่มีเงินสด มีแต่ในบัญชี และตนก็ไม่ได้คิดจะให้
แต่นายพิภัทรก็บอกว่าจำเป็นต้องใช้จริง เอานาฬิกาข้อมือ หรือโทรศัพท์วางประกันไว้ก็ได้ ตนจึงได้เอานาฬิกายี่ห้อไซโก้จากนายพิภัทร มาประกันไว้ก่อน จากนั้นจึงโอนเงินค่ารักษาให้ไปจำนวน 8,000 บาท เมื่อได้เงินนายพิภัทร ก็ขับรถออกไป ต่อมาวันที่ 25 ต.ค 64 นายพิภัทร โทรมาบอกตนว่าจะคืนเงินให้ โดยนัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายนายพิภัทรก็ไม่มาตามนัด แถมปิดเครื่องและบล็อคไลน์ตนเองหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง ตนจึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานการโอนเงินให้นายพิภัทรทั้งหมดเดินทางมาเข้าแจ้งความ
ในเบื้องต้น หญิงสาวผู้เสียหายรายนี้ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิทวัส สายอ๋อง พนักงานสอบสวนสภ.บางบัวทอง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ข่าว/ภาพ-ศุภชัย สินธิ์ประเสริฐ