svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย

02 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชาที่เป็นของเกษตรกรรายย่อยอย่างแท้จริง เพื่อลดการผูกขาดของกลุ่มนายทุน และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน

2 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 9 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้มีการจัดพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ และลูกข่ายฟาร์มกัญชาโคราชรักกัญช์หนึ่งเดียว โดยมี ผศ.ดร.อดิศร เนาว์นนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, ผศ.ดร.พิเศษ ตู้กลาง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ผศ.ดร.ธนากร เปลื้องกลาง หัวหน้าคณะวิจัยและพัฒนาฯ, ผศ.ดร.มะลิวัลย์ สืบศาสนา คณะทำงานวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมเป็นสักขีพยาน

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย


    

นายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ เปิดเผยว่า สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีวิสาหกิจชุมชนที่ร่วมลงนามทั้งหมด จำนวน 8 วิสาหกิจชุมชน ประกอบไปด้วย วิสาหกิจชุมชนเวชศาสตร์สมุนไพร ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา, วิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อเวชศาสตร์และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (โคราชเฮิร์บ-เวสเนสต์ ทุ่งสว่าง) ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมการผลิตกาแฟสมุนไพร และพืชไร่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, วิสาหกิจชุมชนพลังสีเขียว ต.ทัพรั้ง อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา, วิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานสมุนไพรไทย ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจไทยภูแลนคา ต.ภูแลนคา อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ และวิสาหกิจชุมชนปลูกสมุนไพรและแปรรูปอาหารคลองลาวน ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง 

รวมทั้งลูกข่ายฟาร์มกัญชาของแต่ละวิสาหกิจชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนด้วยการปลูกกัญชา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่ทางรัฐบาลส่งเสริมให้สามารถปลูกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย

 


 

ประธานเครือข่ายชุมชนคนโคราชรักกัญช์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อกให้สามารถปลูกกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตนเองและเพื่อนเกษตรกรก็ได้รวมกลุ่มกันตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เข้าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด และรวบรวมเครือข่ายกันในเบื้องต้นได้ 8 วิสาหกิจชุมชน เป็นเครือข่ายชุมชนคนโคราชรักกัญช์ โดยแต่ละวิสาหกิจชุมชน ก็จะมีการระดมทุนจากลูกข่าย ทำการปลูกกัญชาในโรงเรือน ซึ่งขณะนี้เครือข่ายมีการปลูกต้นกัญชาไปแล้วเกือบ 10,000 ต้น แต่เพื่อให้การดำเนินการไปสู่เป้าหมายคือการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน จึงได้มาลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งมีองค์ความรู้เรื่องกัญชาตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำอยู่แล้ว ให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยงสร้างความแข็งแรงให้กับเครือข่ายด้วย

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย
    

ผศ.ดร.อดิศร เนาว์นนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนให้มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาอยู่แล้ว แต่การดำเนินการของวิสาหกิจชุมชนหลายแห่งก็ยังขาดองค์ความรู้ด้านวิชาการ และกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการปลูกกัญชา ซึ่งต้องมีกระบวนการขั้นตอนการขออนุญาตต่าง ๆ รวมทั้งขออนุญาต อย.ให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย 

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย


 

ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยฯ จึงพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มส่วนนี้ ให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ มีการทำวิจัยเกี่ยวกับการปลูกกัญชาแบบอินทรีย์อยู่แล้วหลายแห่ง จึงพร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้กับ “เครือข่ายชุมชนคนโคราชรักกัญช์” ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มผู้ปลูกกัญชาที่เป็นเกษตรกรรายย่อยจริง ๆ ไม่ใช่นายทุน จะได้ไม่ไปผูกขาดกับกลุ่มนายทุนเพียงอย่างเดียว อันจะส่งผลให้รายได้ตกมาอยู่กับเกษตรกรตัวจริงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้าจะมีการระดมทุนกับลูกข่ายเกษตรกรรายย่อย ก็ขอให้มีการชี้แจงรายละเอียดให้เกษตรกรรายย่อยผู้ร่วมลงทุนด้วยข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาในภายหลังด้วย แต่การรวมกลุ่มครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น หากทำสำเร็จก็จะนำไปสู่การเป็นต้นแบบให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาทั่วประเทศต่อไป

วิสาหกิจชุมชนจับมือ ม.ราชภัฏโคราช เดินหน้าปลูกกัญชารายย่อย
      

ด้าน ร.ต.ท.ธงชัย โพธิ์สว่าง ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมง ปศุสัตว์ และพืชผักสมุนไพร ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย กล่าวว่า ตอนนี้การปลูกกัญชาเป็นที่ตื่นตัวของเกษตรกรในพื้นที่ อ.พิมายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่ ต.รังกาใหญ่ ซึ่งขณะนี้มีวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาอยู่ถึง 2 แห่ง ดังนั้นจึงได้หารือกันเพื่อทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวปราสาทหินพิมาย ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจรของธนาคารที่ดิน สำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ใกล้ๆ ด้วย โดยจะทำให้พี่น้องเกษตรกรรายย่อยสามารถสร้างรายได้จากการปลูกกัญชา เพื่อยกระดับให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคตต่อไป.

โดย - ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ

 

logoline