2 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม น.ส.อังษณา (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพะเยา ลงวันที่ 4 เมษายน 2564 ข้อหา “ฉ้อโกง”
ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ ปี 2558 ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันออกอุบาย ชักชวนเหยื่อให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ โดยจูงใจด้วยการให้ผลตอบแทนสูงตามจำนวนเงินที่นำมาลงทุน
ระยะแรกผู้ต้องหาจ่ายผลตอบเเทนตามที่กำหนด ผู้เสียหายจึงได้มีการชักชวนผู้อื่นให้มาร่วมลงทุนเพิ่มขึ้นอีก แต่หลังจากนั้นผู้เสียหายกลับไม่ได้รับเงินผลตอบแทนและไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้อีก ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคำ จ.พะเยา
ตรวจสอบพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหายคิดเป็นเงินมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 17 ล้านบาท ต่อมาตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี แต่ในระหว่างการดำเนินคดี ผู้ต้องหาขอใช้สิทธิประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี แต่เมื่อถึงวันนัดรายงานตัวผู้ต้องหากลับหลบหนีไม่มาตามนัด ศาลจังหวัดพะเยาจึงได้อนุมัติหมายจับ
ล่าสุดชุดสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางมาบริเวณ แขวงจตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณลานจอดรถใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ แขวงจตุจักร จึงเข้าจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคำ
ผู้ต้องหายอมรับว่า สาเหตุที่หลบหนีไป เพราะไม่มีเงินต่อสู้คดี ส่วนข้อหาที่ถูกกล่าวหาในการกระทำผิดนั้น ตนทำหน้าที่เพียงแค่รับโอนเงินและได้รับผลตอบแทนเพียงบางส่วนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามทางตำรวจสอบสวนกลาง ฝากเตือนภัยประชาชนที่ประสงค์ลงทุนในธุรกิจที่โฆษณาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง ในระยะเวลาอันสั้นดังกล่าว ซึ่งมักจะอ้างว่าระดมทุนในธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม เช่น ทอง น้ำมัน เหรียญสกุลเงินดิจิตัล หรืออาศัยความเชื่อถือจากบุคคลผู้มีชื่อเสียง
ขอให้ตรวจสอบว่าธุรกิจนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ ควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจที่ร่วมลงทุนและลงทุนกับการระดมทุนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้การรับรอง เพื่อประโยชน์แก่ทรัพย์สินของตัวเอง