ญาติน้องเจนสาวเมืองพร้าวร้องสื่อ โวยตำรวจดองคดี

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 27 ตุลาคม​ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีของ น.ส.จิรารัตน์ ทรงพูล หรือ น้องเจน อายุ 25 ปี ชาว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้หายตัวไปจากหอพักตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค. 64 ทางญาติไม่สามารถติดต่อได้ และได้มีการแจ้งความตามหาคนหายเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 64 จนมาพบว่าน้องเจนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.64 และศพได้เก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยขณะนี้ญาติได้นำศพน้องเจน กลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา

ล่าสุด น.ส.กาญจน์สุดา จุมปาลี อายุ 43 ปี ป้าของน้องเจน ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีการติดใจการเสียชีวิตของน้องเจน โดยในวันนี้น.ส.กาญจน์สุดา ได้เข้ามาดำเนินการเรื่องเอกสารเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องเจน รวมถึงเก็บข้าวของน้องเจน กลับไปไว้ที่บ้านในอำเภอพร้าว เพื่อเตรียมประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ในพรุ่งนี้ (28 ต.ค.64)

โดย น.ส.กาญจน์สุดา จุมปาลี กล่าวว่า ที่มาร้องเรียนสื่อมวลชนในวันนี้ เนื่องจากว่ายังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของหลานสาว หลังจากที่เมื่อวานนี้มีการนำเสนอข่าวว่าตนเองไม่ติดใจ ขอชี้แจงก่อนว่าเมื่อวานยังอยู่ในอาการช็อคและเสียใจ จึงไม่ทันได้คิดอะไร พอตั้งสติได้จึงอยากจะให้ตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้ง ว่าเกิดจากอุบัติเหตุน้องเจนรถล้มเอง หรือมีรถคันอื่นมาชนทำให้น้องเสียชีวิต

เพราะว่าหลังจากวันเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรฯ ที่รับผิดชอบคดีนี้ไม่ได้มีการติดตามคดีหรือตามหาญาติ เพื่อมารับศพน้องเจน ปล่อยให้น้องเจนกลายเป็นศพไร้ญาติ อยู่ในโรงพยาบาลนานเกือบเดือน โดยทางตำรวจอ้างว่าไม่มีเอกสารติดตัวน้องเจน เลยไม่ทราบว่าเป็นใคร ในจุดนี้อยากจะเรียนถามว่า ทะเบียนรถจักรยานยนต์ติดอยู่ที่รถ ไม่นำเลขมาเช็คว่าเป็นรถใครหรือเจ้าของรถเป็นใคร นอกจากนี้กระเป๋าสตางค์ของน้องเจนยังอยู่ที่รถ ซึ่งสายตรวจได้นำไปให้ตำราจนายนี้แล้ว แต่กลับไม่มีการเปิดดูเอกสารอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีบัตรประชาชน แต่มีตั๋วจำนำที่ระบุชื่อจริง-นามสกุล ของน้องเจนไว้อย่างชัดเจน ทำไมไม่นำชื่อมาค้นหาในระบบข้อมูล จากการสอบถามข้อมูลพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี ไม่ได้เข้าไปในจุดเกิดเหตุด้วยซ้ำ ให้ตำรวจสายตรวจดำเนินการเองทั้งหมด พร้อมกับไม่มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้วยซ้ำ ว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร

ในส่วนที่ทางครอบครัวตามหาน้องเจนเจอได้ เพราะว่าได้มีการมาแจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แล้วทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการออกตามหาทันที และได้มีการตามหาตลอดทั้งคืนจนพบว่า ในคืนวันที่น้องเจนหายไปมีอุบัติเหตุทางจักรยานยนต์เกิดขึ้น และรถจักรยานยนต์มีเลขทะเบียนตรงกับรถของน้องเจนขับขี่ออกไปในวันเกิดเหตุ จึงได้พาตัวเพื่อนของน้องเจนไปดูศพ ที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยัน ปรากฏว่าเป็นน้องเจนจริง ญาติจึงเสียใจเป็นอย่างมาก

น.ส.กาญจน์สุดา จุมปาลี กล่าวต่อว่า ตนเองเลี้ยงน้องเจนมาเหมือนลูก รักเหมือนลูก เรียกได้ว่าเป็นลูกบุญธรรม กับแม่ทูนหัว ปกติแล้วน้องเจนจะพักอยุ่กับตนที่บ้านพักใน ต.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ แต่ถ้าช่วงไหนมีฝนตกบ่อยๆ น้องเจนจะมาพักกับเพื่อนที่หอพักในซอยอิงดอย ใกล้กับเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า เพราะใกล้ที่ทำงาน ในช่วงที่หลานสาวหายตัวไป ตนเองนึกว่าหลานอยู่กับเพื่อน และทำงานจนไม่มีเวลาติดต่อ ปกติหลานสาวเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงอยู่แล้ว จึงไมได้เอะใจ จนแม่ของน้องเจนติดต่อน้องเจนไม่ได้ ได้โทรศัพท์มาหาว่าติดต่อน้องเจนไม่ได้ ตนเองได้โทรหาน้องเจนแต่ปิดเครื่อง ประกอบกับเพื่อนของน้องเจนติดต่อมาสอบถาม จึงได้เดินทางมาที่หอพักปรากฏว่าน้องเจนหายตัวไปหลายวัน เพื่อนน้องเจนก็คิดว่า น้องเจนกลับมาอาศัยอยู่กับป้าที่แม่โจ้ จนพากันออกตามหาและแจ้งความจนมาพบน้องเจนในที่สุด

สุดท้ายจะฝากถึงตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ ให้ช่วยตรวจสอบการทำงานของตำรวจร้อยเวรนายนี้ ที่ปล่อยปะละเลยการทำงาน ปล่อยให้หลานตนเองเป็นศพไร้ญาตินายกว่า 20 วัน พร้อมกันนี้อยากจะให้ช่วยไขคดีว่าน้องเจนมีคนมาชนหรือประสบอุบัติเหตุเอง เพื่อไขข้อสงสัยของญาติ

ขณะที่ พลต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งความตำรวจก็ได้ออกติดตามหาตัวน้องเจนกระทั่งพบศพ ซึ่งเบื้องต้นทางตนก็ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ. แม่ปิงที่เป็นเจ้าของคดีนี้ทำหนังสือชี้แจ้งเรื่องนี้แล้ว และให้รายงานข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ทั้งหมด โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนอ้างว่าผู้ตายประสบอุบัติเหตุไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่สามารถติดต่อได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้นิ่งนอนใจยันจะให้ความเป็นธรรมกับญาติของคนตาย รวมถึงได้สั่งการให้ ผกก.สภ.แม่ปิง เดินทางไปพบกับญาติของผู้เสียชีวิตที่อ.พร้าว เพื่อแสดงความเสียใจและขอโทษในกรณีที่เกิดขึ้น ที่ทำคดีล่าช้า พร้อมกันนี้ได้กำชับให้หาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อไขข้อสงสัยให้กับญาติ