เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.สุรสีห์ โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ ว่าจะมีแรงงานชาวเมียนมาอีกเป็นจำนวนมาก ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยใช้ช่องทางธรรมที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาในพื้นที่บ้านพุพญา หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
หลังรับแจ้งจึงสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ร้อย.ตชด.136 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค และ เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อ.ไทรโยค เดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งพบกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายหญิงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่า เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม นับรวมกันได้ทั้งหมด จำนวน 71 ราย เป็นชาย 36 คน และหญิง 35 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เบื้องต้น ไม่พบสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส
จากการสอบถามแรงงานทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.ทวาย จ.พะโค และ จ.เมาะลำไย ประเทศเมียนมา จากนั้นเดินทางต่อถึงฝั่งชายแดนไทย และจะเข้าไปในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร กทม. จ.นครปฐม จ.สระบุรี จ.ชลบุรี และ จ.กาญจนบุรี โดยจะจ่ายเงินให้กับนายหน้าเมื่อถึงที่หมาย เป็นเงิน 17,000 - 20,000 บาท/คน
หลังจากกลุ่มแรงงานยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อสอบปากคำเพิ่มเพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ก่อนที่จะดำเนินคดีในข้อหา กระทำผิดฐาน ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมารวมกันได้ 260 คน โดยคดีแรกสามารถจับได้ 14 คน คดีที่สอง 34 คน คดีที่สาม 141 คน และล่าสุดจับได้อีก 71 คน ซึ่งวานนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 120 คน รวม 2 วัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้มากถึง 380 คน
ขณะที่แรงงานต่างด้าวที่สามารถพูดไทยได้ ยังบอกด้วยว่า ยังมีแรงงานที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยรออยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนด้าน จ.กาญจนบุรี อีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเพิ่มกำลังบูรณาการร่วมกันดูแลตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันแรงงานต่างด้าวที่อาจจะลักลอบเข้ามาอย่างเข้มงวด
ข่าว-ภาพ โดย สุพจน์ แก้วกาสี