การที่ "MRTV" สื่อที่เป็นกระบอกเสียงของ รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ประกาศว่า ผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหารจะต้องได้รับบทเรียน ว่าพวกเขาสามารถตกอยู่ในอันตรายถึงขึ้น "ถูกยิงที่ด้านหลังหรือที่ศีรษะ" ได้นั้น ทำให้คนหนุ่มสาวรู้ดีว่าพวกเขาไม่อาจต่อสู้ด้วยอุดมการณ์และมือเปล่าได้อีกต่อไป เพราะการปราบปรามการประท้วงหลังการ รัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า "ทัดมาดอว์" หรือ "กองทัพ" ใช้ความรุนแรงและโหดร้ายกับผู้ประท้วง โดยสันติ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กผู้หญิง พระสงฆ์และคนชรา ทำให้หลายคนพากันเข้าป่าเพื่อฝึกอาวุธกับกลุ่มติดอาวุธเพื่อหวังจะโค่นหรือ "ทหาร" ให้ได้
หลังจากที่ "รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ" (NUG) ก่อตั้งขึ้นในฐานะ รัฐบาลเงา สมาชิกของ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ก็พากันเข้าไปในพรมแดนอิสระ เพื่อฝึกและจับอาวุธต่อสู้กลับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งนับแต่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ประชาชนทั้งในเมืองใหญ่และตามชนบทหลายพันคน ได้หลั่งไหลเข้าร่วมกับ PDF และได้ลงมือลอบโจมตีแล้วหลายครั้ง สร้างความสูญเสียให้กองทัพรวมทั้งทำลายเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่กองทัพเป็นเจ้าของไปมากกว่า 120 ต้น และในระยะเวลากว่า 8 เดือน จำนวนการปะทะกันระหว่างทหารกับฝ่ายต่อต้าน มากถึง 132 ครั้ง กองทัพสูญเสียทหารไปมากกว่า 1,560 นาย บาดเจ็บ 552 นาย แต่ความสูญเสียของฝ่าย PDF ไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่ตัวเลขพลเรือนที่ถูกสังหารในระหว่างการประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร มีอย่างน้อย 1,160 คน ถูกจับกุมคุมขัง 8,817 คน