กระทรวงพลังงานเลบานอน เปิดเผยว่ากระแสไฟฟ้าในเลบานอนเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (10 ตุลาคม) หลังจากไฟฟ้าดับทั้งวัน ในวันก่อนหน้านี้ เมื่อโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ 2 แห่งต่างก็ปิดการผลิตกระแสไฟฟ้าเนื่องจากการขาดแคลนเชื้อเพลิง
การปิดการผลิตไฟฟ้าดังกล่าว ก่อให้เกิดความทุกข์ยากมากขึ้นสำหรับชาวเลบานอนที่ต้องดิ้นรนกับการตกงาน ราคาสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น และความหิวโหยที่เกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเงินที่เลวร้ายลงของประเทศ
กระทรวงการพลังงานระบุว่า ได้รับการอนุมัติจากธนาคารกลางมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการออกประกวดราคานำเข้าเชื้อเพลิงเพื่อการผลิตไฟฟ้า และเสริมว่าระบบสายส่งไฟฟ้าของประเทศได้กลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าในปริมาณเท่าเดิมก่อนไฟฟ้าดับ
เมื่อวันเสาร์ โรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของเลบานอน ได้แก่ โรงงานซาห์รานี และ เดอีร์ อัมมาร์ ได้ปิดตัวลงเนื่องจากการขาดแคลนเชื้อเพลิง ส่งผลให้เครือข่ายไฟฟ้าของเลบานอนต้องหยุดทำงานโดยสมบูรณ์
ขณะที่บริษัทไฟฟ้าของรัฐบาล บอกในแถลงการณ์ที่รายงานโดยสำนักข่าวแห่งชาติของทางการว่า กองทัพเลบานอนตกลงเมื่อเย็นวันเสาร์ที่จะจัดหาน้ำมันเตา 6,000 กิโลลิตร โดยจะแจกจ่ายให้เท่า ๆ กันระหว่างโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง
เลบานอนเป็นอัมพาตจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออุปทานเชื้อเพลิงนำเข้าเริ่มเหือดแห้ง ขณะที่ค่าเงินของสกุลเงินเลบานอนลดลง 90% ตั้งแต่ปี 2562
ก่อนหน้านี้ ประเทศก็เจอปัญหาไฟฟ้าดับกันทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าจะไม่ใช่การดับแบบตลอดวัน และชาวเลบานอนจำนวนมาก ก็มักพึ่งพาเครื่องปั่นไฟฟ้าส่วนตัวที่ใช้น้ำมันดีเซล แม้ว่าน้ำมันดีเซลก็ขาดแคลนเช่นกัน