คลินิกทำแท้งบางแห่งในรัฐเท็กซัส เปิดเผยว่า กลับมาเปิดให้บริการแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯในเมืองออสตินมีคำสั่งเมื่อวันพุธระงับการบังคับใช้กฎหมายห้ามทำแท้งของรัฐเท็กซัสไว้ชั่วคราว แต่ทางการรัฐเท็กซัสยื่นอุทธรณ์คัดค้านแล้ว และคาดว่าการต่อสู้ในศาลจะยืดเยื้อหลายเดือน
กฎหมายฉบับนี้เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ก.ย. โดยกำหนดห้ามการทำแท้งเมื่อจับสัญญาณการเต้นของหัวใจของตัวอ่อนในครรภ์ได้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเกือบ 6 สัปดาห์ และมีเสียงวิจารณ์ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวยังเร็วเกินไปเพราะผู้หญิงบางคนยังไม่รู้ตัวเลยว่าตั้งครรภ์แล้ว
คลินิกทำแท้งรายหนึ่ง บอกว่า มีผู้หญิงโทรศัพท์ติดต่อขอทำแท้งเพิ่มขึ้นทันทีหลังมีคำสั่งของศาล แต่ก็ยังกังวลว่าคำสั่งนี้อาจมีผลเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น และบางแห่งกลัวว่าอาจถูกยื่นฟ้องโดยมีผลย้อนหลัง หากกฎหมายกลับมาบังคับใช้ได้อีกครั้ง
ขณะที่ผู้สนับสนุนกฎหมายห้ามทำแท้งของรัฐเท็กซัสวิจารณ์การตัดสินใจของผู้พิพากษาอย่างรุนแรงว่าเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการทำแท้ง และเรียกร้องให้มีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม
กฎหมายฉบับนี้จุดชนวนการถกเถียงอย่างกว้างและการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศเพื่อเรียกร้องสิทธิการทำแท้งเนื่องจากผู้ประท้วงวิตกว่านักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกันในรัฐอื่นๆจะพยายามผลักดันกฎหมายลักษณะเดียวกันกับรัฐเท็กซัส และในเดือน ธ.ค.นี้ ศาลฎีกาสหรัฐฯจะมีคำตัดสินเกี่ยวกับกฎหมายของรัฐมิสซิสซิปปี ที่ห้ามการทำแท้งหลังอายุครรภ์ 15 สัปดาห์ โดยทางรัฐขอให้ศาลฎีกาล้มคำตัดสินคดี โร แอนด์ เวด ในปี 2516 ที่ทำให้ผู้หญิงทั่วสหรัฐฯมีสิทธิทำแท้ง