กระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยว่า จีนส่งเครื่องบิน 56 ลำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ หรือ ADIZ ซึ่งเป็นเขตกันชนนอกน่านฟ้าของไต้หวันในวันนี้ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่ไต้หวันเริ่มเปิดเผยตัวเลขเที่ยวบินของจีนที่รุกล้ำเขต ADIZ เมื่อเดือน ก.ย.2563
ฝูงบิน 52 ลำแรกเข้าสู่พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขต ADIZ ช่วงกลางวัน โดยในจำนวนนี้เป็นเครื่องบินขับไล่ เจ-16 จำนวน 34 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด เอช-6 อีก 12 ลำ ส่วนเครื่องบิน เจ-16 อีก 4 ลำบินเข้าสู่พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขต ADIZ ในช่วงกลางคืน
กองทัพอากาศไต้หวันได้ส่งเครื่องบินขับไล่เข้าสังเกตการณ์ ประกาศเตือนทางวิทยุ และเคลื่อนกำลังยุทโธปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศ
นายกรัฐมนตรี ซู เจิ้ง-ชาง กล่าวว่า ไต้หวันจำเป็นต้องเฝ้าระวัง จีนคุกคามมากยิ่งขึ้น และโลกได้เห็นแล้วว่าจีนละเมิดสันติภาพในภูมิภาคและกดดันไต้หวันซ้ำแล้วซ้ำอีก และไต้หวันจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่ง พร้อมทั้งบอกว่าเมื่อประเทศอื่นใดต้องการเข้าผนวกไต้หวัน ก็จะไม่กล้าใช้กำลังรุกรานอย่างง่ายดาย และเรียกร้องให้ชาวไต้หวันสามัคคีกันเพื่อปกป้องตัวเอง
นอกจากนี้โจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของออสเตรเลียว่า "เรากังวลอย่างมากว่าจีนจะเปิดสงครามกับไต้หวันในวันใดวันหนึ่ง แม้ว่าภัยคุกคามนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
จีนส่งเครื่องบินรุกล้ำเขต ADIZ ของไต้หวันระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.รวมทั้งสิ้น 149 ลำ และหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วงวันชาติของจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ต.ค. และอาจต้องการส่งสารว่าจีนมุ่งมั่นปกป้องบูรภาพทางดินแดนและยึดมั่นในเป้าหมายการผนวกไต้หวันเป็นของจีน
และเมื่อสุดสัปดาห์กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนให้จีนหยุดกดดันทั้งทางทหาร การทูต และเศรษฐกิจ และการขู่เข็ญต่อไต้หวัน
แต่กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงตอบโต้เมื่อวานว่า การที่สหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน และส่งเรือมาสอดส่องในช่องแคบไต้หวัน เป็นการกระทำเชิงชั่วยุที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน และเรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เรียกร้องเอกราชในไต้หวัน พร้อมทั้งย้ำชัดเจนด้วยว่า "จีนจะใช้มาตรการตอบโตที่จำเป็นทุกอย่าง และจะทำลายแผนการประกาศเอกราชของไต้หวันด้วยความเด็ดเดี่ยว"