นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ ว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นานเกือบ 20 นาทีเมื่อช่วงเช้า และสองฝ่ายยืนยันว่า จะร่วมมือกันเสริบกระชับพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และส่งเสริมให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเปิดกว้างและเสรี
นอกจากนี้ จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในประเด็นจีนและเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯให้คำมั่นว่าจะปกป้องญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงเกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก
ญี่ปุ่นมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของจีนในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งรวมถึงการรุกล้ำน่านน้ำรอบเกาะพิพาทเซนกากุ ที่จีนก็อ้างกรรมสิทธิครอบครองและเรียกเกาะนี้ว่า เกาะเตียวหยู
นอกจากนี้ ไบเดน ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนความพยายามของญี่ปุ่น เพื่อนำชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวโดยเกาหลีเหนือในช่วงทศวรรษ 1970-1980 กลับประเทศ และผู้นำทั้งสองตกลงจะพบกันตัวต่อตัวในเร็วๆ นี้เท่าที่เป็นไปได้
คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ วัย 64 ปี เปิดตัวคณะรัฐมนตรีเมื่อวาน ที่ประกอบด้วยพันธมิตรของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และอดีตรัฐมนตรีคลัง ทาโร อาโสะ โดยยังคงให้โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมและน้องชายของอาเบะ และโทชิมิสึ โมเตงิ รัฐมนตรีต่างประเทศดำรงตำแหน่งเดิม สะท้อนว่าต้องการสานต่อนโยบายของอาเบะในการกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ และรักษาความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน
ในการแถลงข่าวครั้งแรกเมื่อค่ำวานนี้ คิชิดะ ยังประกาศว่าจะยุบสภาในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และจัดการเลือกตั้งทั่วไปเร็วกว่ากำหนดเป็นวันที่ 31 ต.ค. เพื่อขอฉันทามติจากประชาชนในช่วงที่รัฐบาลใหม่จะยังมีคะแนนนิยมสูงและการระบาดของโควิด-19 ชะลอลงอย่างมาก
คิชิดะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 100 หลังรัฐสภาลงมติรับรองเมื่อวันจันทร์ และพรรคสันนิบาตแห่งชาตเพื่อประชาธิปไตยหรือ แอลดีพี ลงมติเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เลือกเขาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ที่ไม่ลงชิงตำแหน่งอีกสมัยเพื่อก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ขอขอบคุณภาพจาก : REUTERS