28 กันยายน 2564 หญิงสาวผู้เสียหายจากคดีถูกฉ้อโกงโควต้าลอตเตอรี่รวมมูลค่ามากกว่า 65 ล้านบาทพร้อมทนายความเดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ก่อนหน้านี้แจ้งความไว้กับตำรวจกองปราบปราม เพื่อเอาผิดนายทหารยศนายพันนายหนึ่งสังกัดกรมทหารในย่านหลักสี่ ในข้อหาฉ้อโกง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้รู้จักกับนายทหารคนดังกล่าวผ่านการติดต่อของเพื่อน ซึ่งนายทหารคนดังกล่าวอ้างว่า มีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่สามารถจัดสรรให้เป็นพิเศษนอกเหนือจากระบบการจัดสรรของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ โดยรับโควต้าดังกล่าวมาจากนายพลอีกนายหนึ่ง
ผู้เสียหายได้ลงทุนซื้อโควตาสลากล็อตแรกตั้งแต่ต้นปี 2564 และได้สลากตามที่ตกลงกันเรื่อยมาทุกงวด จนกระทั่งเห็นว่า ได้ของจริงและมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากนายพันนายดังกล่าวนัดให้ไปรับสลากภายในกรมทหารในย่านหลักสี่ที่เจ้าตัวสังกัดอยู่ด้วย จึงไปรวบรวมเงินลงทุนจากเพื่อนและญาติมาอีกหลายล้านบาท
จนกระทั่งงวดล่าสุดวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ปรากฏว่านายพันนายดังกล่าวกลับไม่ยอมส่งสลากตามที่ตกลงกันไว้ และเมื่อสอบถามไปก็บ่ายเบี่ยงว่าเกิดปัญหาต่างๆขึ้น ไม่ยอมคืนเงินให้ จึงตัดสินใจรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า
พนักงานสอบสวนให้ไปรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ มาเพิ่มเติมอีก ผู้เสียหายและทนายความจึงกลับไปรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนครบถ้วน และกลับมายื่นให้กับพนักงานสอบสวนในวันนี้พร้อมติดตามความคืบหน้าของคดี
ทั้งนี้ผู้เสียหายเกรงว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่มีความคืบหน้าทางคดี หรืออาจมีการพยายามวิ่งเต้นจากนายพันนายดังกล่าว จึงอยากให้สื่อมวลชนและกองบังคับการปราบปรามเร่งดำเนินการเอาผิด เพื่อนำเงินมาคืนให้ เชื่อว่าอาจมีผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก