นายนาจิบ ราซัก ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนาน 9 ปีจนถึงปี 2651 ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (19 ก.ย.) และเมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับคดีความที่เขาถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริงในคดีคอร์รัปชัน จะทำให้เขาขาดคุณสมบัติและไม่อาจลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายนาจิบแสดงความเห็นว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตีความทั้งในแง่กฎหมาย รัฐธรรมนูญ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในกระบวนการทางยุติธรรม
และเมื่อถูกซักถามอีกว่า เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะลงมัครในการเลือกตั้งที่จะจัดภายในปี 2566 ใช่หรือไม่ เขาตอบว่า นักการเมืองทุกคนย่อมต้องการแสดงบทบาทและลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้ง
ความเห็นของนาจิบมีขึ้นเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากพรรคอัมโนของเขาได้กลับเข้าเป็นรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากคดีอื้อฉาวของนาจิบเกี่ยวเนื่องกับกองทุนวันเอ็มดีบี ที่มีการยักยอกทรัพย์หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้พรรคอัมโนแพ้การเลือกต้้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดในขณะนั้นเดินหน้าการสอบสวนคดีจนทำให้นาจิบถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริงในคดีทุจริตในปีที่แล้ว และต้องรับโทษจำคุก 12 ปีจากความผิด 3 ข้อหารวม 7 กระทง ได้แก่ ยักยอกทรัพย์ ใช้อำนาจโดยมิชอบ และละเมิดต่อหน้าที่ โดยให้รับโทษพร้อมกัน แต่เขายื่นอุทธรณ์สู้คดี
อย่างไรก็ตามเขายังคงมีสถานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดห้ามลงสมัครเลือกตั้งครั้งใหม่ ยกเว้นว่าเขาจะได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดี ส่วนพรรคฝ่ายค้านแสดงความกังวลว่า การที่พรรคอัมโนอยู่ในอำนาจอาจทำให้นาจิบมีโอกาสได้รับการผ่อนผันโทษ
นอกจากนี้นายนาจิบ เปิดเผยด้วยว่า เขาได้ขอให้นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคูบ ผลักดัน ให้คณะกรรมการไต่สวนพิจารณาตรวจสอบว่า การพิจารณาคดีของเขาเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่