19 กันยายน 2564 ทีมข่าวลงพื้นที่เขตรอยต่อบ้านลำหอก ตำบลหนองเหล็ก อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ผ่านบ้านท่าเรือ ม.2 และบ้านคลุง ตำบลราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผ่านเข้าตัวเมืองสุรินทร์ โดยชาวบ้านประสบปัญหาถนนสายดังกล่าว มีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร โดยเฉพาะปีนี้หนักสุด สภาพเป็นโคลน และมีน้ำขังตลอดสาย ทั้งนี้ ถนนบ้านลำหอก ตำบลหนองเหล็ก อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ไปบ้านท่าเรือ ม.2 และบ้านคลุง ตำบลราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ สามารถเชื่อมไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง และเป็นเส้นทางลำเลียงผลผลิตการเกษตรไปขาย มีรถที่ใช้เส้นทางดังกล่าวจำนวนมาก
ทีมข่าวสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ที่สัญจรไปมา เล่าว่า ถนนสายดังกล่าวมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดสาย เวลาหน้าฝนก็มีสภาพเป็นโคลน พอหน้าแล้ง เวลารถวิ่งผ่าน ฝุ่นฟุ้งกระจาย เดือดร้อนมาตลอด แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ถนนเส้นนี้ใช้มานานกว่า 30 ปี ทาง อบต.หนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้นำดินเข้ามาถมถนน แต่ไม่กี่วันก็กลับสู่สภาพเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม และไม่เคยเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปยัง อบต. แต่สุดท้ายก็เงียบหาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ปัญหาให้ชาวบ้านด้วย
ทีมข่าวพบ น.ส.เสาวรัตน์ เพชรปัญญา ผู้โพสต์คลิปและข้อความ พร้อมกับชาวบ้าน เดือดร้อนมากๆ ยิ่งช่วงฝนตกจุดที่ถนนชำรุดดังกล่าวก็จะมีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านรวมถึงนักเรียนที่ต้องสัญจรผ่านจุดนี้ก็ลำบากไปตามๆกัน ซึ่งถนนเส้นนี้ที่ชำรุดระยะทางจากรอยต่อบ้านท่าเรือ ตำบลราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ไปจนถึงบ้านลำหอก ตำบลหนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ก็ประมาณกว่า 3 กม. จะมีอยู่ 3 จุดที่ชำรุดหนักมากๆ โดยได้พาทีมข่าวไปดูถนนที่ได้โพสต์ลงโซเชียล ซึ่งถนนนั้นถ้าฝนตกก็จะเป็นโคลนบางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อลึก รถที่สัญจรไปมาลำบาก ถนนเส้นนี้ชำรุดมานานกว่า 30 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ก็มีหน่วยงานเข้ามาซ่อมแซม แต่ซ่อมได้ไม่กี่วันถนนก็กลับมาพังเหมือนเดิม ตนในนานตัวแทนของชาวบ้าน จึงอยากจะร้องผ่านสื่อไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ละดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้ด้วย
โดย - วิจิตร ชุณหกิจขจร