17 สิงหาคม 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า การที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมเปิดประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 15 ต.ค. นี้ ส่วนตัวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาข้อมูลให้รอบด้าน ว่าประเทศไทยมีความพร้อมแล้วหรือไม่ และมีความเสี่ยงมากแค่ไหน และมีการป้องกันประชาชนในประเทศหรือไม่
ทั้งนี้ หลายประเทศที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า โดยรัฐบาลในประเทศนั้นๆ มีการฉีดวัคซีนป้องกันให้ประชากรในกระเทศได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 แต่สำหรับประเทศไทย จนถึงวันนี้ (17ก.ย.) รัฐบาลฉีดให้ประชาชนครบทั้ง 2 เข็ม เพียง 13.3 ล้านคน จากทั้งหมด ที่ได้รับวัคซีน 41.6 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของประชากรทั้งประเทศ หากรัฐบาลเปิดเพื่อหารายได้ เพราะรัฐบาลหารายได้ทางอื่นไม่เป็น เกรงว่าจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี
อย่างไรก็ตาม กรณีที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยกระดับโควิด-19 สายพันธุ์ "มิว" ให้เป็นสายพันธุ์ล่าสุด ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเป็นอันตราย ในอนาคตอันใกล้ เพราะมีการตรวจพบหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ยุโรป และล่าสุดพบในประเทศญี่ปุ่น รวมๆ กันแล้วมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก หนักสุด คือ สหรัฐอเมริกา ที่แพร่กระจายไปมากกว่า 49 มลรัฐ
นายสงคราม กล่าวต่อว่า ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค. ควรที่จะเร่งศึกษาและหาวิธีการรับมือไวรัสสายพันธ์ใหม่ ที่มีความร้ายแรงและอันตรายมากขึ้น หากไม่ทำอะไรเลย อาจส่งผลกระทบกับกับชีวิตประชาชนอย่างร้ายแรง ก่อนที่จะมีมาตราการเปิดประเทศ
"เพราะวัคซีนที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน อาจใช้ไม่ได้ผลกับไวรัสสายพันธุ์นี้ รัฐบาลไม่ควรแก้ปัญหาแบบวิ่งตามปัญหา คือ เกิดการแพร่ระบาดก่อนแล้วหาทางแก้ไข ส่งผลให้เกิดการระบาดจนยากเกินเยียวยา เพราะแค่สายพันธ์เดลต้าที่ระบาดในปัจจุบัน ก็ส่งผลให้ประชาชนติดเชื้อเกิน 1 ล้านคน เสียชีวิตป็นจำนวนมาก ถือว่าเลวร้ายมากแล้ว" นายสงคราม กล่าว