วอชิงตันโพสต์รายงานว่าพลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐต่อสายตรงถึงพลเอกหลี่ จ๊วะเฉิงแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนถึง 2 ครั้งเนื่องจากกังวลอย่างมากว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะก่อสงครามกับจีนเพราะความเป็นไปได้ที่เขาจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี
โดยการโทรครั้งแรกมีขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2020 หรือ 4 วันก่อนเลือกตั้งสหรัฐ และอีกครั้งมีขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2021 หรือ 2 วันหลังจากฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ก่อเหตุบุกยึดอาคารรัฐสภา ในการโทรหานายพลของจีน มิลลีย์ให้ความมั่นใจกับจีนว่าสหรัฐจะไม่โจมตีจีน แต่หากทรัมป์สั่งให้โจมตี ก็จะแจ้งให้จีนทราบล่วงหน้า
พลเอกมิลลีย์ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ ขณะที่สมาชิกวุฒิสภารีพับลิกันอย่างมาร์โค รูบิโอ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดน ปลดมิลลีย์ออกจากประธานเสนาธิการทหารทันที เพราะคงไม่จำเป็นต้องบอกถึงอันตรายแค่ไหนที่นายทหารระดับสูงออกมาเปิดโปงความลับในปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐซึ่งจะส่งผลเสียและทำลายความสามารถของประธานาธิบดีในการเจรจากับนานาชาติด้วย
โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเช่นกันโดยขอให้ไปถามประธานเสนาธิการทหารหรือกระทรวงกลาโหมแทน ทรัมป์เป็นคนแต่งตั้งพลเอกมิลลีย์ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของกองทัพในปี 2018 แต่ต่อมาทรัมป์เริ่มไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์มิลลีย์รวมถึงคนอื่นๆที่เขาแต่งตั้ง แม้แต่คณะทำงานของทรัมป์เองหลังจากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน 2020
วอชิงตันโพสต์ รายงานว่าพลเอกมิลลีย์ยังได้คุยกับแนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐที่แสดงความกังวลว่ามิลลีย์จะสามารถป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยอย่างทรัมป์ถล่มจีนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่ โดยเปโลซี่เรียกทรัมป์ว่าเป็นคนบ้าและบ้ามานานแล้ว ซึ่งพลเอกมิลลีย์ก็ตอบว่าเขาเห็นด้วยกับเปโลซี่ทุกอย่าง
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ออกแถลงการณ์โต้กลับว่าเป็นเรื่องกุขึ้นโดยสิ้นเชิง และแม้หากเป็นเรื่องจริง พลเอกมิลลีย์ก็จะต้องถูกจับในข้อหากบฏหรือทรยศ ทรัมป์ยืนยันว่าเขาไม่เคยแม้แต่จะคิดถล่มจีนด้วยซ้ำ