ครอบครัวเด็ก14เข้าให้ปากคำหลังจากถูกเด็ก12ปีขืนใจ

9 กันยายน 2564 เมื่อเวลา 08.30 น. คุณยายพร้อมแม่ของ ด.ญ.บิวนามสมมติ อายุ 14 ปี เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับร้อยเวรที่ สภ.คำชะอี ถึงกรณีที่น้องบิว ถูกกระทำชำเราจำนวน 4 ครั้ง  เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมแล้วทางผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความเดือนกันยายน

ยายเกี้ยว (สงวนนามสุกล) อายุ72ปี เล่าให้ฟังว่าบ้านของตนเองอยู่หมู่6 ต.เหล่าสร้างถ่อ อ.คำอำชะอี  จ.มุกดาหาร วันเกิดเหตุครั้งแรก คือวันที่ 2 ก.ค.64 ซึ่งตนเองออกไปดำนาในหมู่บ้าน โดยปล่อยให้ ด.ญ.บิว อยู่บ้านตามลำพัง ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับหลานสาวของ ตนรู้สึกเสียใจทำอะไรไม่ถูก ต่อมาตนจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเด็กชายอายุ 12 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน ตนเคยได้พูดคุยเพื่อขอไกล่เกลี่ย แต่ผู้ปกครองของฝ่ายผู้ก่อเหตุและผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับว่าได้กระทำชำเราน้องบิว โดยอ้างว่าน้องบิวกุเรื่องขึ้นมาเอง
 

จากการสอบถามน้องบิว ได้ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 2 ก.ค.64 ผู้ก่อเหตุบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า ต่อยท้อง และฉุดหลานสาวไปบังคับขืนใจจนสำเร็จความใคร่ บริเวณยุ้งฉางหลังบ้าน วันที่ 3-4 ก.ค.64 นั่งดูทีวีภายในบ้านตามลำพัง จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เข้ามาภายในบ้าน กระชากแขนล้มลงนอนกับพื้นและได้กระทำชำเรา พยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่ผู้ก่อเหตุได้ใช้มือตบที่บริเวณหน้า ชกที่ท้องและบีบคอ ตกใจกลัวจึงหยุดร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากผู้ก่อเหตุเสร็จกิจแล้วยังได้ข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครถ้าหากไม่เชื่อจะฆ่าให้ตาย แล้วก็มีการเข้ามาขืนใจอย่างต่อเนื่องคือ และวันที่ 26 ก..ค.64  ปีนห้องน้ำหลังบ้านเข้ามาทำร้ายและฉุดไปขืนใจในห้องน้ำหลังบ้าน

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว นางวารุณี  (สงวนนามสุกล) อายุ40ปี ผู้เป็นแม่ได้ทราบเรื่องเดินทางกลับมายังบ้านและได้เห็นลูกสาวตนผิดปกติ จึงได้สอบถามน้องบิวว่าเกิดอะไรขึ้น ในที่สุดน้องบิวจึงได้เล่าเหตุการณ์ให้นางวารุณี ได้พาน้องบิวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมุกดาหาร ซึ่งต้องรอผลการตรวจร่างกายอีกครั้ง
     

ด้านพ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง ผกก.สภ.คำชะอี กล่าวพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเบื้องต้นเมื่อวันที่ 2กันยายน 64 ที่ผ่านมาว่ามีเด็กชายคนหนึ่งได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงบีอายุ 14 ปี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายความจริงก็เป็นญาติห่างๆกัน โดยแจ้งให้รับทราบเบื้องต้นแล้วว่าเรามีการรับแจ้งแล้วก็จะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าประเพณีทางอีสานเขาอยากจะไกล่เกลี่ยพูดคุยกันก่อน ในส่วนทางคดีตำรวจจะต้องพิสูจน์ความจริงและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมีความเป็นจริงหรือเป็นเรื่องเท็จเพียงใด โดยใช้พยานทางนิติวิทยาศาสตร์พยานบุคคลและพยานวัตถุเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็คงจะต้องประสานทางแพทย์ ในวันนี้จะให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าร่วมตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนของเด็ก 12 ปี ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ในวันที่ 10 กันยายน 64 ทางเจ้าที่ตำรวจจะเรียกเด็กชายวัย 12 ปี มาให้ปากคำที่ สภ.คำชะอี อีกครั้ง