เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านอาหารในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีการคลายล็อคกิจการร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้น ที่สีแดงเข้ม ให้สามารถกลับมาทานในร้านได้ แต่สำหรับในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม หรือควบคุมสูงสุด ซึ่งไม่ได้มีการห้ามรับประทานอาหารในร้านแต่อย่างใดแต่บรรยากาศช่วงที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจที่ร้านพีโอนีคอฟฟี่ ร้านกาแฟในย่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ปกติแล้วจะมีนักท่องเที่ยว นักศึกษา และลูกค้าภายในพื้นที่มาอุดหนุน แต่วันนี้บรรยากาศเงียบเหงาในตลอดช่วงเช้า
นายธนกร ศราทธทัต เจ้าของร้าน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงก่อนหน้านี้จะมีลูกค้าแวะเวียนมาตลอดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มาใช้พื้นที่ในการดื่มกาแฟและทำรายงาน แต่หลังจากที่มีการแพร่ระบาดตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ลูกค้าก็ลดลงไปบ้างตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกค้ามีการเปลี่ยนเป็นซื้อกลับไปทานที่บ้านหรือที่ทำงาน และสั่งผ่านทางออนไลน์ ประกอบในช่วงที่ผ่านมา ทางศบค. ได้มีการสั่งให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัย งดการเรียนการสอนในโรงเรียน ให้ไปเรียนออนไลน์แทน ยิ่งทำให้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักศึกษาหายไป
รวมถึงภาครัฐเองไม่ได้มีการเยียวยาผู้ประกอบการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะค่าส่วนต่างของแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารออนไลน์ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะมีการลดค่าส่งและส่วนต่าง สุดท้ายไม่มีอะไรคืบหน้า ร้านต้องช่วยเหลือตัวเองประคับตัวเองต่อไป และคาดการณ์ว่าในอนาคตถึงแม้จะมีการกลับมาเปิดการบินได้หรือเปิดเมืองท่องเที่ยวได้ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจลักษณะนี้ที่ไม่ได้ดีมากการใช้เงินของลูกค้าหรือประชาชนคงจะออกจากกระเป๋ายากมากขึ้น
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจที่ร้านกัลยามาสสาจ ที่เป็นร้านนวดแผนโบราณในย่านนิมมานเหมินทร์ ย่านการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ปรากฏว่าภายในร้านไม่มีลูกค้ามานวดแม้แต่คนเดียว และภายในร้านพบพนักงานนวดแผนโบราณประจำร้านอยู่ 1 คน ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามสถานการณ์
โดย น.ส.เกษรา ยอดเรือด อายุ 51 ปี หมอนวดแผนโบราณ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านร้านนวดในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้มีการปิดให้บริการเหมือนในกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด และยังบริการนวดทุกรูปแบบเหมือนเดิม แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลูกค้าหายไปเกือบหมด จะมีเข้ามาบ้างส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ และชาวต่างชาติพำนักในเชียงใหม่ บางวันไม่มีรายได้แม้แต่บาทเดียว บางวันได้ 3 - 4 ร้อยบาท ทำให้ต้องปรับตัวในการชีวิต เงินเยียวยาที่ภาครัฐให้มาในนโยบายต่างๆ ได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ไม่สามารถช่วยได้ตลอด ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้
สำหรับสถานการณ์ร้านนวดในพื้นที่นิมมานเหมินทร์ ขณะนี้ปิดกิจการไปหลายร้านแล้ว บางร้านที่เปิดได้มีการลดพนักงานลง อย่างเช่นร้านที่ตนเองทำงานอยู่ ได้ลดเหลือพนักงานเหลือตนเองเพียงคนเดียว หมอนวดในย่านนี้ลดลงไปอย่างมากจากเมื่อก่อนมีหมอนวดอยู่ประมาณ 2-3 ร้อยคน ขณะนี้เหลือเพียงประมาณ 20 คนเท่านั้น ส่วนคนที่หายไป บางคนไปทำอาชีพอื่นรอให้สถานการณ์กลับเป็นปกติ บางคนกลับบ้านต่างอำเภอและต่างจังหวัด ส่วนการจะเปิดเมืองท่องเที่ยวนั้นตนเองยังเป็นห่วงว่าจะเปิดได้หรือไม่ เพราะวัคซีนยังฉีดได้ไม่ทั่วถึง รวมถึงตนเองยังไม่ได้รับวัคซีนเพราะถูกเลื่อนฉีดมาแล้วถึง 2 ครั้ง