วันนี้ (27 ส.ค.) มีการประชุมสรุปความคืบหน้าโครงการภูเก็ตแซนบล็อกหลังเปิดมาได้กว่า 50 วัน โดย นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจเชิงรุกเพิ่มมากขึ้นด้วยชุดตรวจเอทีเคทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว โดยการติดเชื้อมาจากสามคลัสเตอร์ ภาคการประมง ก่อสร้าง และแพปลา ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจากนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์
ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวเรียกร้องให้รัฐบาล จัดวัคซีนเพิ่มให้กับชาวภูเก็ตเป็นเข็มที่สามเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงไฮซีซั่น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียซึ่งเป็นกลุ่มที่มากเป็นอันดับสองของจังหวัดภูเก็ต หลัง ศบค. มีมติให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่ฉีดวัคซีน สปุ๊กนิกสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้
-เสนอปลดล็อกภูเก็ตตั้งพื้นที่พิเศษให้ นทท.ดื่มกิน
ด้านนางนันทิดา อติเศษฐ์ อุปนายกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ระบุ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 500,000 คน และอยากให้ภาครัฐปรับปรุงคอขวดที่เป็นปัญหาด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการงดบิน การเดินทางข้ามจังหวัด หรือแม้แต่การจัดเขตพิเศษให้สามารถดื่มกินตามแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะช่วง 50 วันที่ผ่านมา ผู้ที่เดินทางเข้ามาชะลอตัวเนื่องจากไม่มั่นใจการจัดการเชื้อ โควิด-19 ซึ่งเป็นตัวเลขภาพรวมของประเทศ จึงอยากให้แยกภูเก็ตออกมาให้ชัดเจน เพื่อยกเลิกการใช้สีเป็นเกณฑ์กำหนด
ขณะเดียวกันก็ยังมีปัญหาเรื่องของการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยบันทึกข้อมูลการเดินทางเข้าออกซ้ำซ้อน หลายแพล็ตฟอร์ม ซึ่งจากนี้ไปจะกลายเป็นการท่องเที่ยวแบบ 7 + 7 หากไม่จัดระบบให้พร้อมก็อาจเกิดปัญหาในการติดตามนักท่องเที่ยวได้
-ตร.สั่งคุมเข้มปัญหา นทท.หนีแซนบล็อก และการหนีเข้าเมือง
ส่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ. 9 กล่าวว่า ได้ประสานกับกระทรวงดีอี เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่เป็นหนึ่งเดียวให้ง่ายต่อการทำงาน พร้อมกับกำชับทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยวให้ประสานงานใกล้ชิดกับฝ่ายปกครองเพื่อแก้ปัญหานักท่องเที่ยวหลบหนีโครงการแซนบล็อก รวมถึงการหลบหนีเข้าเมืองของกลุ่มแรงงานซึ่งอาจสร้างปัญหาการแพร่เชื้อโควิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ส่วนข้อเสนอที่อยากให้มีการตั้งสถานีตำรวจภูธรด่านตรวจเข้าเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นด้วยเนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่มีอยู่จำกัด และต้องทำงานทั้งสืบสวนสอบสวน หากให้มาประจำที่ด่านตรวจอาจกระทบงานเดิม และมองว่าหากปรับใช้เทคโนโลยีแล้วทุกฝ่ายจะทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น โดยอยากให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่จะมาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในไฮซีซั่น ของทะเลฝั่งอันดามันที่กำลังจะมาถึงนี้