25 สิงหาคม 2564 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ติดตามและประเมินสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ความมั่นคงของมหาอำนาจสองขั้ว และความเคลื่อนไหวทางทหารในตะวันออกกลาง และในเอเชียตะวันออกเชียงใต้
ทั้งนี้ โดยพิจารณารักษาสมดุล ความสัมพันธ์ทางทหารและความร่วมมือของทุกฝ่ายอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี เพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงทางภูมิภาค ส่วนสถานการณ์การเมืองภายในเมียนมา ที่ตามมาด้วยความรุนแรง และโรคระบาด ขอให้ประสานฝ่ายปกครองร่วมกัน เพื่อเตรียมความพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยึดหลักเมตตาธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้ นายกฯได้เน้นย้ำให้กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ขับเคลื่อนการปฏิรูปกองทัพ ทั้งทางโครงสร้าง ระบบบริหารจัดการ ระบบงานกำลังพล รวมถึงระบบงานงบประมาณ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์ความมั่นคง รวมถึงแผนแม่บทการพัฒนา และเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพให้ดำเนินการไปตามแผน
ทั้งนี้ โดยเฉพาะการปรับลดกำลังพลให้มีขนาดที่เหมาะสมกับกองทัพ รวมทั้งให้พิจารณานำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการให้มากขึ้น โดยเฉพาะการจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ด้านความมั่นคง ควบคู่ไปกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
ขณะเดียวกัน ขอให้พิจารณาปรับแก้ไขระเบียบข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม ที่ไม่เหมาะสมให้ทันสมัย และไม่ให้เป็นอุปสรรคกับการบริหารราชการในอนาคต ที่ต้องการความรวดเร็ว ทันสมัย และโปร่งใสมากขึ้น พร้อมทั้งได้กำชับถึงการบริหารจัดการงบประมาณของทุกระดับหน่วย ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับของทางราชการ มีความถูกต้องและโปร่งใส โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องสอดคล้อง และเป็นไปตามข้อกำหนดของ ศบค. และจะต้องพร้อมรับการตรวจสอบทั้งจากหน่วยภายในและภายนอกกลาโหมตลอดเวลา
สำหรับการปรับย้ายกำลังพลของทุกเหล่าทัพนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ให้ความสำคัญในการพิจารณาคัดเลือก และปรับย้ายกำลังพลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนเก่ง คนดี และได้รับการยอมรับ เข้ามาทำหน้าที่ในการเป็นผู้บริหาร หรือผู้นำหน่วยงานในทุกระดับ เพื่อร่วมกันยกระดับหน่วยงาน และขับเคลื่อนกองทัพไปสู่ความทันสมัย โปร่งใส ไม่สร้างปัญหา และได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังได้ขอบคุณหน่วยขึ้นตรงกลาโหมและทุกเหล่าทัพ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาโควิด ที่ดำรงความต่อเนื่องในการสนับสนุนแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด และขอให้เตรียมความพร้อมสนับสนุนในการกระจายวัคซีนในช่วงปลายปี 2564 ไปสู่ประชาชนให้เร็วที่สุด จึงขอให้เตรียมขยายขีดความสามารถโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอยของทหารให้พร้อมรองรับผู้ป่วยในทุกระดับ
พร้อมกันนี้ ขอให้หน่วยขึ้นตรงกลาโหม เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กอ.รมน. สนับสนุนข้อมูลที่ถูกต้องในการดำเนินงานด้านความมั่นคง และเปิดเผยสิ่งที่ต้องเปิดเผยให้กับสังคมประชาชน และการเมืองในกลไกรัฐสภา เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ไม่ให้เกิดช่องว่างของการนำข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนนำไปบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิด
ทั้งนี้ ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของบุคคลองค์กร และขยายนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม หากมีการดำเนินการที่กระทำแล้วส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความเสียหายต่อองค์กร ขอให้ดำเนินการติดตามและลงโทษเอาผู้กระทำผิดตามกฎหมายมาลงโทษ