25 สิงหาคม 2564 การประชุมร่วมกันรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ( แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จัดทำแล้วเสร็จในวาระที่สอง
โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ. กล่าวรายงาน โดยแจ้งยกเลิกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรายงานของกมธ. ที่เสนอเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา และใช้ฉบับใหม่ ซึ่งได้แก้ไขปรับปรุงไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค. หลังจากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
จากนั้น ที่ประชุมได้เข้าสู่การพิจารณาเรียงลำดับเป็นรายมาตรา โดยมาตรา 3 ซึ่งแก้ไขมาตรา 83 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่ง กมธ. ได้แก้ไขจำนวนของส.ส. โดยให้ ส.ส. มีจำนวน 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน ทั้งนี้ กมธ. ได้เพิ่มวรรคสอง ระบุให้การเลือกตั้ง ส.ส. ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ พร้อมให้ใช้บัตรเลือกตั้งส.ส.แบบละ 1 ใบ
โดยมีสมาชิกรัฐสภาอภิปรายตามคำขอแปรญัตติที่สงวนไว้จำนวนมาก โดยมี ส.ส.อภิปรายสนับสนุนการแก้ไขของ กมธ. ทั้งจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่
ขณะเดียวกัน มีส.ส.ที่ไม่เห็นด้วย จากฝั่งพรรคก้าวไกล และพรรคเสรีรวมไทย ได้ตั้งคำถามกับการแก้ไขของกมธ. ถึงระบบเลือกตั้ง และจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต สามารถดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง มากกว่าระบบเดิม ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้มีส.ส.เขต 350 คนหรือไม่
โดยนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า การแก้ไขระบบเลือกตั้งของกมธ.อาจเป็นการปลุกผี ที่หลายคนเคยกลัวขึ้นมา และอาจทำให้สภาฯ กลายเป็นสภาฯที่มีเสียงข้างมากเผด็จการ
ขณะที่ นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามและขอคำชี้แจงจากกมธ. ถึงเหตุผลอย่างสมเหตุสมผลต่อการแก้ไขจำนวน ส.ส.เขต พร้อมแสดงความเห็นและความกังวลต่อการกำหนดการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง หากสามารถแก้ไขจำนวนเขตได้ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะอาจขีดเส้นแบ่งตามผู้มีอำนาจ แทนการแบ่งพื้นที่ที่เหมาะสมกับการดูแลประชาชน