กระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 112 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 760 ราย จากเหตุการณ์ฝูงชนรุมล้อมเพื่อรับสิ่งของบรรเทาทุกข์จากขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือราว 30 คันใกล้เมืองกาซาซิตีเมื่อวันพฤหัสบดี (29 กุมภาพันธ์) หลังจากทหารอิสราเอลยิงปืนใส่ฝูงชน ทำให้เกิดความแตกตื่น
นอกจากนี้ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยกับสื่อว่า ฝูงชนรุมล้อมรถบรรทุกที่มาถึงเพื่อหวังแย่งชิงอาหาร และทหารอิสราเอลเริ่มยิงใส่ รถบรรทุกพยายามขับหนีออกจากพื้นที่ ทำให้ชนคน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
ขณะที่กองทัพอิสราเอล โต้แย้งว่า เกิดเหตุรุนแรงสองเหตุการณ์ห่างกันหลายร้อยเมตร โดยจุดแรกมีผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บหลายสิบคน ขณะพยายามเข้ารุมล้อมรถบรรทุกความช่วยเหลือเพื่อยื้อแย่งสิ่งของช่วยเหลือจนเกิดการเหยียบกัน และถูกรถแล่นทับ และรถถังอิสราเอลที่นำขบวนรถบรรทุกยิงเตือนเพื่อสลายฝูงชน แต่ถอนตัวออกหลังจากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และยืนยันไม่ได้ยิงใส่ขบวนรถ พร้อมกับเผยภาพจากโดรนที่เผยให้เห็นทหารพยายามสลายฝูงชนหลายพันคน
นอกจากนี้กองทัพ บอกว่า อีกเหตุการณ์รถบรรทุกความช่วยเหลือกำลังวิ่งออกไป และบางคนวิ่งตรงเข้าหาทหารอิสราเอลและรถถังที่ด่านตรวจ ทำให้ทหารรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย จึงยิงใส่และทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยไม่ระบุจำนวน แต่แย้งว่า ไม่มากเท่าที่ทางการกาซากล่าวอ้าง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และชีค ทามิม บิน ฮามัด อัล-ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ โทรศัพท์หารือเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเร่งการเจรจาเพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซานานอย่างน้อย 6 สัปดาห์ และขยายความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา
อันโตนิอู กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ บอกว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด และจำเป็นต้องมีการสอบสวนอย่างเป็นกลาง ขณะเดียวกันฝรั่งเศสเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างอิสระเช่นกัน และสหรัฐฯ ขอให้อิสราเอลชี้แจงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และให้การรับประกันความปลอดภัยแก่ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือ
ขณะที่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซาที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30,000 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 70,000 ราย