svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

"มิน อ่องหล่าย" เชื่อคุมเล้าก์ก่ายได้ ทั้งที่ทหารและประชาชนพากันอพยพหนี

03 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร อ้างภูมิภาคเล้าก์ก่ายยังอยู่ภายใต้การควบคุม หลังถูกกองกำลังพันธมิตรติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์โจมตีอย่างหนัก ขณะที่มีรายงานว่าทหารเมียนมายอมแพ้ด้วยการยกธงขาวตามที่มั่นหลายแห่ง

การที่พลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร ที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลพลเรือนของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)ของนางอองซาน ซูจี อ้างว่าภูมิภาคเล้าก์ก่ายยังอยู่ภายใต้การควบคุม หลังถูกกองกำลังพันธมิตรติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ ระดมโจมตีอย่างหนักมาหลายสัปดาห์นั้น ได้สวนทางกับความเป็นจริง โดยเฉพาะเมื่อสหประชาชาติต้องสั่งถอนเจ้าหน้าที่ออกจากเล้าก์ก่ายเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อหนีการถล่มทางอากาศและการสู้รบที่ดุเดือดตามถนนสายต่าง ๆ 

"มิน อ่องหล่าย" เชื่อคุมเล้าก์ก่ายได้ ทั้งที่ทหารและประชาชนพากันอพยพหนี

ในพื้นที่ทางเหนือที่ติดกับพรมแดนจีน กองกำลังติดอาวุธสามฝ่ายที่ผนึกกำลังกันเป็น "พันธมิตรสามภราดรภาพ" (Three Brotherhood Alliance) หรือ "สามพี่น้อง" ประกอบด้วย

  • กองกำลังโกก้าง หรือ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไคตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA)
  • กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง หรือ ปะหล่อง (TNLA)
  • กองทัพอาระกัน (AA)

ได้ใช้ปฏิบัติการ 1027 ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ร่วมกันโจมตีกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุน จนสามารถยึดที่มั่นทางทหารและอาวุธได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย

"มิน อ่องหล่าย" เชื่อคุมเล้าก์ก่ายได้ ทั้งที่ทหารและประชาชนพากันอพยพหนี

นอกจากยอมวางอาวุธแล้ว ทหารเมียนมายังยอมแพ้ด้วยการยกธงขาวตามที่มั่นหลายแห่ง เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ด้านสหประชาชาติระบุว่ามีประชาชนที่ทิ้งบ้านเรือน หนีภัยสงครามข้ามพรมแดนออกจากเมียนมากมากถึง 500,000 คนแล้ว โดย 70% ของประชากรในเมืองเล้าก์ก่าย ได้หนีออกนอกเมืองในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ 

"มิน อ่องหล่าย" เชื่อคุมเล้าก์ก่ายได้ ทั้งที่ทหารและประชาชนพากันอพยพหนี

กลุ่มพันธมิตรชาติพันธุ์ระบุด้วยว่า พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อเป้าหมายคือการยึดเมืองหลวงให้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่และสำคัญที่สุดในการทำศึกกับรัฐบาลทหาร แต่ผู้เชี่ยวชาญพากันวิตกว่าอาจจะเกิดการสูญเสียใหญ่หลวง เพราะกองทัพสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก และมีสภาพที่อ่อนแออยู่ในเวลานี้ ทำให้พวกเขาอาจตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางอากาศที่หนักหน่วง ไม่เว้นแม้กระทั่งในเขตเมือง

"มิน อ่องหล่าย" เชื่อคุมเล้าก์ก่ายได้ ทั้งที่ทหารและประชาชนพากันอพยพหนี

แหล่งข่าวในกองทัพเมียนมาเปิดเผยว่า กองทัพกำลังเผชิญวิกฤตตัวเลขทหารประจำการลดลงอย่างรวดเร็ว โดยก่อนรัฐประหารได้ประเมินกันว่าน่าจะมีทหารอยู่ราว 3-4 แสนนาย แต่เป็นตัวเลขที่ไม่มีสถิติบ่งชี้ที่ชัดเจน และความจริงน่าจะอยู่ที่ 1.5 แสนนาย แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 7 หมื่นนาย ที่เป็นทหารที่พร้อมรบ แต่ด้วยการสู้รบที่เข้มข้นดุเดือด มีทหารกับตำรวจที่แปรพักตร์และไปเข้าร่วมกับขบวนการต่อต้านรัฐประหาร หรือกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่รวมแล้วประมาณ 1 หมื่นนาย ด้านรัฐบาลเงา (NUG) ได้ประเมินว่า ตั้งแต่เกิดการสู้รบกองทัพฝ่ายรัฐบาลทหารน่าจะเสียชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นนาย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าแหล่งอื่น ๆ ที่ระบุว่าน่าจะมีประมาณ 1-1.5 หมื่นนาย

logoline