คิชิดะแถลงในช่วงค่ำหลังเปิดตัวคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะมีพลังจากการเปลี่ยนแปลง และเขาเลือกรัฐมนตรีที่มีศัยกภาพแข็งแกร่งใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ, นโยบายสังคม และการทูตและความมั่นคง
สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาลชุดนี้ที่ถูกจับตา คือ โยโกะ คามิกาวะ อดีตรัฐมนตรียุติธรรม ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ และเป็นผู้หญิงคนแรกที่คุมกระทรวงนี้ในรอบเกือบ 20 ปี และมิโนรุ คิฮาระ อดีตที่ปรึกษาพิเศษของอดีตนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกลาโหม เขาเป็นสมาชิกอาวุธของคณะทำงานส่งเสริมความสัมพันธ์กับไต้หวัน
ขณะที่ชูนิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลัง, ยาซูโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม และฮิโรกาซู มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาล จะยังคงรั้งตำแหน่งตามเดิม
คิชิดะหวังว่าการปรับคณะมนตรีจะช่วยเรียกคะแนนนิยมให้ดีขึ้น หลังจากตกต่ำลงด้วยปัญหาอื้อฉาวต่าง ๆ ภายในรัฐบาล ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า คิชิดะอาจยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดที่สภาผู้แทนราษฎรจะหมดวาระในเดือนตุลาคม 2568 และคิชิดะกำลังจะพ้นวาระตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยในสิ้นปี 2567
นอกจากนี้เขาให้คำมั่นว่า รัฐบาลใหม่จะพยายามออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ภายในสิ้นเดือนหน้า หลังราคาสินค้าพุ่งสูงทำให้ความต้องการสินค้าภายในประเทศชะลอลง
ส่วนนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง คิชิดะ บอกว่า หลายประเทศคาดหวังให้ญี่ปุ่นแสดงบทบาทสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเขาจะยกระดับสถานะดังกล่าวของญี่ปุ่น พร้อมแสดงความเป็นผู้นำในการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ นอกจากนี้ญี่ปุ่นจะส่งเสริมความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ที่เป็นชาติพันธมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเสริมความร่วมมือกับประเทศที่มีจุดยืนคล้ายกัน เช่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ตลอดจนกระชับความร่วมมือกับเกาหลีใต้ และความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่น สหรัฐฯ และเกาหลีใต้