คิม จองอึน เดินทางด้วยรถไฟมาถึงที่ศูนย์ปล่อยยานอวกาศ วอสตอกชนุย คอสโมโดรม ซึ่งเป็นศูนย์ปล่อยยานอวกาศที่มีความล้ำหน้าที่สุดของรัสเซีย และได้รับการต้อนรับจาก วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียในวันพุธ (13 กันยายน) ซึ่งคิม จองอึน ได้กล่าวขอบคุณปูติน ที่เชิญชวนเขาให้มาเยือนรัสเซีย และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้ว่าปูตินจะมีตารางงานที่ยุ่งมาก
ปูตินให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า สาเหตุที่เลือกศูนย์ปล่อยยานอวกาศ วอสตอกชนุย เป็นสถานที่พบกับ คิม จองอึน เพราะว่า ผู้นำเกาหลีเหนือแสดงความสนใจอย่างมากเรื่องวิศวกรรมจรวด พวกเขากำลังพยายามพัฒนาโครงการอวกาศ
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือพยายามจะส่งดาวเทียมสอดแนมไปที่วงโคจรของโลกสองครั้งแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงถือว่าเป็นจุดนัดพบที่ดีระหว่างสองประเทศ และนักวิเคราะห์ มองว่า รัฐบาลรัสเซียอาจมีแผนที่จะให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ ในเรื่องการส่งดาวเทียมหรือยานอวกาศ ไปที่วงโคจรของโลก
เมื่อนักข่าวถามปูตินว่า จะมีการพูดคุยกันเรื่องความร่วมมือด้านการทหาร หรือเรื่องอาวุธหรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หลาย ๆ ชาติกำลังกังวลว่า เกาหลีเหนืออาจจะให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่รัสเซีย เพื่อเอาอาวุธไปใช้ทำสงครามในยูเครน แต่ปูตินเลี่ยงที่จะตอบเรื่องนี้ตรงๆ โดยตอบแค่ว่า จะพูดคุยกันทุกเรื่อง และจะคุยกันแบบไม่รีบ เพราะมีเวลา
นักวิเคราะห์มองว่า ตอนนี้ รัสเซียกำลังต้องการกระสุนปืน และลูกปืนใหญ่จำนวนมาก หลังจากที่ทำสงตรามในยูเครนมา 18 เดือน และกระสุนปืนเริ่มหมดลง มีการประเมินว่า ปีที่แล้ว รัสเซียใช้กระสุนไปมากถึง 10-11 ล้านนัด ในการสู้รบที่ยูเครน และหลายประเทศก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงขายลูกปืนให้กับรัสเซีย เพราะกลัวจะถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร ส่วนเกาหลีเหนือที่ถูกประชาคมโลก คว่ำบาตรมานานหลายปี ก็มีสิ่งของหลายๆ อย่างที่ขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เงินตราต่างประเทศ หรือเทคโนโลยีด้านการทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียมี และอาจเอามาแลกเปลี่ยนกับเกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับกระสุนปืน หรืออาวุธอื่นๆ
ด้านสหรัฐฯ ที่มีความกังวลว่าเกาหลีเหนือจะขายอาวุธให้รัสเซียนำไปใช้ทำสงครามในยูเครน ได้ออกมาเตือนเกาหลีเหนือว่า หากเกาหลีเหนือขายอาวุธ หรือให้การช่วยเหลือด้านอาวุธแก่รัสเซีย จะเป็นการทำผิดกฎหลายข้อเรื่องความมั่นคงของสหประชาชาติ และต้องเจอมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่รุนแรงกว่าเดิม โดย แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า ทุกประเทศที่ให้การช่วยเหลือรัสเซียทำสงครามในยูเครน จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง โดยสหรัฐฯ จะจับตาการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งนี้ของผู้นำเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
ขณะที่ชาติอื่น ๆ มีความกังวลว่า เกาหลีเหนือ และรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกมากขึ้น แต่หากสองประเทศนี้ หันมาร่วมมือกันด้านการทหารและการพัฒนาอาวุธ ก็จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโลก เพราะทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือต่างก็มีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครอง หากทั้งสองประเทศนี้จับมือกันด้านการทหาร ก็จะถือว่าเป็นภัยคุกคามกับชาติตะวันตก
ในวันนี้เกาหลีเหนือยังทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้สองลูก ไปทางทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบยิงขีปนาวุธในช่วงที่ผู้นำไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่ว่านี่อาจจะเป็นวิธีการแสดงให้เห็นว่า กองทัพเกาหลีเหนือมีความพร้อมที่จะโจมตีด้วยขีปนาวุธตลอดเวลา แม้คิม จองอึน จะไม่ได้อยู่ในประเทศ