จีน-ลาว สนธิกำลังกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในขณะที่หลายประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญกับอาชญากร "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกลวงเงินผ่านผ่านระบบโทรคมนาคมข้ามชาติ โดยมีผู้บงการเป็นนายทุนชาวจีน ล่าสุด สปป.ลาว เป็นหนึ่งในประเทศที่กวาดล้างอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมมือกับทางการจีนจู่โจมเข้าจับกุม และส่งกลับไปดำเนินคดีที่จีนแล้ว มากกว่า 170 คน 

กระทรวงป้องกันความสงบของ สปป.ลาว กับกระทรวงมหาดไทยของจีน ได้ทำบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ตำรวจลาวและจีนร่วมมือกันปราบปรามคดีที่คนจีน เข้าไปก่ออาชญากรรมในพื้นที่ของลาว ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีและรับโทษในจีน

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม กระทรวงมหาดไทยของจีนได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษไปยังลาว เพื่อทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของลาว ซึ่งในการสนธิกำลังกันในครั้งนั้น ทีมผู้เชี่ยวชาญของจีนได้ช่วยให้ตำรวจลาว บุกรังของ "อาชญากรฉ้อโกงทรัพย์ผ่านทางระบบโทรคมนาคมข้ามชาติ" (cross-border telecom fraud cases) ได้ถึง 10 ครั้ง และปิดสถานที่ก่ออาชญากรรม 10 แห่ง ตลอดจนกวาดจับผู้ร่วมขบวนการได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้ง "นายใหญ่" หรือ "ผู้บงการสำคัญ" ได้ 9 คน 

กระทรวงมหาดไทยของจีนยังให้คำมั่นด้วยว่า จะพยายามอย่างลึกซึ้งในความร่วมมือกับประเทศและภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรเหล่านี้ ขณะที่สื่อของทางการจีน China Daily และ CCTV ได้ประโคมข่าวนี้ โดยรายงานเมื่อวันจันทร์ (11 กันยายน 2566) อ้างกระทรวงความมั่นคงสาธารณะว่า พวกผู้ต้องหา 179 คน ที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงทรัพย์ผ่านทางระบบโทรคมนาคมข้ามชาติ 270 คดี ที่ถูกจับในปฏิบัติการร่วมลาว-จีน ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ได้ถูกนำตัวไปที่สนามบินนานาชาติวัดไต ในกรุงเวียงจันทน์ ซึ่งทางการจีนได้ส่งเครื่องบินพร้อมเจ้าหน้าที่มารับตัวกลับไป

แก๊งอาชญากรที่เรียกว่า "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล มีประชาชนจำนวนมากถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์ บางคนถึงกับหมดตัวและบางคนฆ่าตัวตาย ในส่วนของ สปป.ลาว พบว่า พื้นที่ก่ออาชญากรรมของคนเหล่านี้ ที่มีนายทุนใหญ่เป็นชาวจีนได้กระจายอยู่ทั้งในกรุงเวียงจันทน์ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง-แขวงบ่อแก้ว แขวงเวียงจันทน์และแขวงสะหวันนะเขต 

นอกจากนี้ยังพบว่าที่เขตปกครองตนเองชนชาติว้า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ก็เพิ่งส่งตัวผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมลักษณะเดียวกันแก่ตำรวจจีน ที่ด่านชายแดนรัฐฉาน-จีน เมืองป๋างซาง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติว้า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเขตปกครองตนเองเมิ่งเหลียน จังหวัดผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ เป็นแก๊งคนจีนที่เข้าไปอาศัยพื้นที่ก่ออาชญากรรม ซึ่งการส่งตัวในครั้งนั้นมีเป็นจำนวนมากถึง 1,207 คน