svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

WHO ขึ้นบัญชี “แอสปาร์แตม” สารอาจก่อมะเร็ง แต่ยังกินได้ตามปริมาณแนะนำ

14 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

องค์การอนามัยโลกสรุปขึ้นบัญชี “แอสปาร์แตม” ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ในกลุ่มสารที่อาจก่อมะเร็ง แต่ยืนยันยังคงมีความปลอดภัยเมื่อบริโภคในปริมาณตามคำแนะนำที่เคยกำหนดไว้

คณะผู้เชี่ยวชาญของ 2 องค์กรภายใต้สังกัดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำประกาศเกี่ยวกับการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของ “แอสปาร์แตม” สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ในวันศุกร์ (14 กรกฎาคม 2566)

สำนักงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง (IARC) ประกาศว่า แอสปาร์แตม เป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นการประกาศขึ้นบัญชีดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยมีความหมายว่า มีหลักฐานอย่างจำกัดว่า สารดังกล่าวอาจก่อมะเร็งได้ แต่ไม่ได้ประเมินเกี่ยวกับปริมาณการบริโภค 

WHO ขึ้นบัญชี “แอสปาร์แตม” สารอาจก่อมะเร็ง แต่ยังกินได้ตามปริมาณแนะนำ ขณะที่คณะกรรมการร่วมของ  WHO และองค์การอาหารและเกษตรกรรม ว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหาร (JECFA) ประกาศผลการทบทวนของคณะฯ ว่า ยังไม่พบหลักฐานเชื่อได้ว่า แอสปาร์แตมก่ออันตรายต่อสุขภาพ และยังคงยึดตามคำแนะนำเดิมที่ว่าประชาชนควรบริโภคแอสปาร์แตมปริมาณต่ำกว่า 40 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว  1 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ. 1981 และหน่วยงานทั่วโลกออกคำแนะนำเรื่องปริมาณการบริโภคเดียวกันนี้แก่ประชาชน

ดร. ฟรานเซสโก บรันกา ผู้อำนวยการแผนกความปลอดภัยโภชนาการและอาหารของWHO ยกตัวอย่างว่า คนที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม ดื่มน้ำอัดลมที่ใส่แอสปาร์แตมแทนน้ำตาลมากกว่า 9-14 กระป๋องต่อวัน จึงจะเกินเกณฑ์ปริมาณที่แนะนำ โดยคำนวณตามค่าเฉลี่ยของแอสปาร์แตมที่ใส่ในเครื่องดื่ม

นอกจากนี้เขากล่าวว่า ภายใต้คำแนะนำนี้ WHO ต้องการให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาล หรือสารให้ความหวานในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ได้แนะนำให้บริษัทถอดผลิตภัณฑ์ที่ใส่สารแอสปาร์แตม และไม่ได้แนะนำให้ผู้บริโภคหยุดบริโภคเช่นกัน เพียงแต่แนะนำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคใช้สารแอสปาร์แตมในปริมาณที่เหมาะสม

อุตสาหกรรมอาหารใช้แอสปาร์แตมอย่างกว้างขวางเพราะสามารถให้ความหวานมากถึง 200 เท่าของน้ำตาล และมีผลิตภัณฑ์เกือบ 6,000 รายการทั่วโลกที่ใส่สารแอสปาร์แตม

logoline