svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

อาณาจักรแก๊งอาชญากรไซเบอร์จีนในพรมแดนไทย-เมียนมา

พรมแดนไทย-เมียนมา กลายเป็นอาณาจักรของแก๊งอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ล่อลวงและฉ้อโกงเหยื่อหลายประเทศทั่วโลก โดยพบว่าศูนย์กลางอยู่ที่เมืองชเว ก๊กโก เมืองสร้างใหม่ในรัฐกะเหรี่ยง ส่วนเหยื่อมีทั้งคนที่ถูกฉ้อโกงเงินและคนหางานที่ถูกหลอกไปเป็นทาสไซเบอร์

สถาบันแห่งสันติภาพสหรัฐฯ หรือ USIP (United States Institute of Peace) ที่ก่อตั้งโดยสภาคองเกรสส์ของสหรัฐฯ เมื่อปี 2527 ทำหน้าที่เป็นสถาบันอิสระเพื่อการป้องกันและบรรเทาความขัดแย้งที่รุนแรงในต่างประเทศ ออกรายงานชื่อ "อาชญากรรมมะเร็งร้ายแพร่กระจายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" (A Criminal Cancer Spreads in Southeast Asia) ระบุถึง องค์กรอาชญากรรมไซเบอร์จากจีนที่ปฏิบัติการอยู่ตามแนวพรมแดนไทย-เมียนมา และกำลังคุกคามผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ด้วยการหลอกลวงทางออนไลน์และการฉ้อโกงทางการเงิน (online scams and financial fraud) โดยใช้ทาสทางไซเบอร์ (cyber slaves) ที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์มาก่ออาชญากรรม 

กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ได้ถูกผลักดันออกจากจีน และตอนนี้ได้หันมาดำเนินการอยู่ตามแนวพรมแดนของหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา และ USIP ระบุในรายงานว่าเป็น "ภัยคุกคามด้านความมั่นคงทั่วโลก" (global security threat) แต่ยังแทบไม่มีการลงมือเพื่อยับยั้งการเติบโตของอาชญากรเหล่านี้ 

เจสัน ทาวเวอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเมียนมาของ USIP เปิดเผยต่อสำนักข่าว VOA ว่าการหลอกลวงและการฉ้อโกงทางออนไลน์ที่เคยพุ่งเป้าไปที่ชาวจีน ได้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่คนทั่วโลกแล้ว และจากที่เคยเน้นเรื่องการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายเป็นหลัก ตอนนี้เริ่มหันมาใช้การฉ้อโกงรูปแบบใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ "การเชือดหมู" (pig butchering) หรือในภาษาจีนว่า "ชาซูปัน" (shazupan) 

อาณาจักรแก๊งอาชญากรไซเบอร์จีนในพรมแดนไทย-เมียนมา

ทาวเวอร์ระบุว่า วิธีการใหม่ที่นำมาใช้มีเป้าหมายทำให้เหยื่ออ่อนแอทางการเงินก่อนจะลงมือเชือดในที่สุด และตอนนี้อาชญากรเหล่านี้กำลังปั่นหัวคนในสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศทั่วโลก การหลอกลวงประเภทนี้เริ่มต้นที่จีน โดยมิจฉาชีพที่เรียกว่า "สแกมเมอร์" (Scammer) จะใช้วิธีสร้างความโรแมนติกหลอกให้เหยื่อหลงรัก ที่เรียกว่า "Romance Scam" หรือแนะนำรูปแบบการลงทุนบางรูปแบบ และหลอกล่อเหยื่อโดยสร้างความประทับใจว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง เมื่อสแกมเมอร์รู้ว่าเหยื่อใช้ทรัพยากรทางการเงินหมดแล้ว ก็ถึงเวลา "เชือดหมู" นั่นคือการหายตัวไปพร้อมกับเงิน ที่เป็นการทำร้ายเหยื่อทั้งทางด้านการเงินและจิตใจ 

USIP ระบุในรายงานว่า พวกสแกมเมอร์ใช้ "ชเว ก๊กโก" เมืองสร้างใหม่ในรัฐกะเหรี่ยง ที่มีพรมแดนติดกับไทย เป็นฐานปฏิบัติการ และดูเหมือนจะถูกพัฒนาเป็นเขตปกครองตนเองเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังแบ่งเป็นเขตอาชญากรรมอย่างน้อย 17 เขต เป็นพื้นที่รวมกันประมาณ 5 ล้านตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่สำหรับอาคารสำนักงานที่เป็นทางยาวไปตามแนวแม่น้ำเมย บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 

อาณาจักรแก๊งอาชญากรไซเบอร์จีนในพรมแดนไทย-เมียนมา

พื้นที่นี้ควบคุมโดยอาชญากรในคราบนักลงทุนจากจีน ที่เป็น "หุ้นส่วน" กับกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force) หรือ BGF ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงติดอาวุธ ภายใต้การดูแลของกองทัพเมียนมา ซึ่ง USIP ระบุว่าไม่ใช่แค่ชเว ก๊กโก แต่พื้นที่ทั้งหมดกำลังถูกแปรเปลี่ยนเป็นเครือข่ายอาชญากร 

วิกฤตทาสทางไซเบอร์ (Cyber Slaves) ในชเว ก๊กโก ทาวเวอร์ กับ พริสซิลลา แคลปป์ ผู้ร่วมเขียนรายงานของ USIP ระบุว่า หลังจากแรงงานชาวจีนออกจากพื้นที่และกลับไปปักกิ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 อาชญากรก็หันมาล่อลวง "คนหางาน" จากทั่วโลก ด้วยงาน "high-tech" ที่น่าดึงดูดใจ ก่อนจะพาเหยื่อข้ามชายแดนไปสู่การเป็น "ทาสไซเบอร์" ไปทำงานหลอกหลวงทางการเงิน 

อาณาจักรแก๊งอาชญากรไซเบอร์จีนในพรมแดนไทย-เมียนมา

ทาวเวอร์บอกว่า พวกที่ตกเป็นทาสไซเบอร์ล้วนไปจบที่ชเว ก๊กโก พวกเขามาจากที่ต่าง ๆ เช่น ประเทศไทย, กัมพูชา, ลาว, มาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยได้รับคำสัญญาว่าจะได้ทำงานรายได้ดี แต่พอไปถึงก็ต้องเจอสถานการณ์ที่ต่างไปจากที่วาดฝันไว้อย่างมาก... ชเว ก๊กโก เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยการพนันผิดกฎหมายขนาดใหญ่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่เดิมพัฒนาโดย "Yatai International Holdings" ของอาชญากรตัวเอ้ชาวจีน "เสอ จื่อเจียง" 

เสอ จื่อเจียง และอาชญากรข้ามชาติคนอื่น ๆ ได้เข้าไปจับมือเป็นพันธมิตรกับ BGF ทั้งยังได้รับ "ที่ดินกับการสนับสนุน" จากกองกำลังที่รัฐบาลทหารเมียนมาหนุนหลัง แต่หลังจากที่เสอ จื่อเจียง ถูกจับเมื่อปี 2565 กลุ่ม BGF ได้เข้าไปควบคุมอาณาจักรอาชญากรรมทั้งหมดแทน เพิ่มความมั่งคั่งกับอำนาจอย่างมากมาย 

ทาวเวอร์บอกว่า ในตอนแรกการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างกองกำลังพิทักษ์ชายแดน และองค์กรอาชญากรจีนเหล่านี้ คือการสร้างเมืองเพื่อทำเป็นศูนย์กลางพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย และการฉ้อโกงทางออนไลน์ที่มีเป้าหมายเป็นชาวจีนในประเทศจีน แต่ต่อมาพบว่ามีพลเมืองมากกว่า 30 ประเทศ ที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในพื้นที่ริมแม่น้ำเมย

อาณาจักรแก๊งอาชญากรไซเบอร์จีนในพรมแดนไทย-เมียนมา

สื่อสิงคโปร์ Straits Times ได้ประเมินว่า มีชาวมาเลเซียราว 1,000 คน ถูกบังคับให้ทำงานที่ชเว ก๊กโก ด้านสถานทูตอินโดนีเซียในย่างกุ้ง ต้องจ่ายเงินให้ BEF เพื่อไถ่ตัวชาวอินโดฯ ราว 20 คน คนละ 8,500 ดอลลาร์ (ราว 300,000 บาท) กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ได้ช่วยชาวฟิลิปปินส์ 8 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นทาสไซเบอร์ หลังจากถูกลวงให้สมัครงานออนไลน์ตำแหน่ง "ลูกค้าสัมพันธ์" ในประเทศไทย ก่อนถูกลวงให้ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี และไปจบที่ชเว ก๊กโก ในฐานะ "ทาสไซเบอร์"

ในจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีเด็กรวมอยู่ด้วย โดยเด็กวัยรุ่นวัย 16 ปี ที่ทำงานอยู่ที่ชเว ก๊กโก บอกว่ามีอาคารปฏิบัติงานด้านคอมพิวเตอร์หลายหลัง แต่ละอาคารที่คนงานสูงสุด 200 คน ส่วนตัวเขาต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. เพื่อหลอกลวงเอาเงินเหยื่อทางออนไลน์ ที่จะมีการกำหนดอัตราไว้ทุกวัน ถ้าไม่สามารถภารกิจให้ลุล่วงได้ตามเป้าก็จะถูกหักค่าจ้าง นอกจากนี้ยังมีการสร้างเว็บไซต์ชอปปิงออนไลน์ปลอม เช่น Amazon กับ Shopee เพื่อฉ้อโกงและขโมยเงินลูกค้า นอกจากนี้ยังสร้างเกมออนไลน์เพื่อเพื่อหลอกลวงและรีดไถผู้ที่หลงเข้าไปเล่นด้วย 

ทาวเวอร์ชี้ว่า ปัญหาอาชญากรไซเบอร์ที่แนวพรมแดนไทย-เมียนมา กลายเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว และต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการช่วยแก้ไข-จัดการ และจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งบรรดาสมาชิกอาเซียนต่างก็พยายามแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการจัดตั้งโครงการต่อต้านการค้ามนุษย์สมัยใหม่และการลักลอบขนส่งผู้อพยพข้ามพรมแดน แต่บริเวณพรมแดนไทย-เมียนมา ยังคงเป็นจุดที่ยากจะเข้าไปแก้ไขได้

อาณาจักรแก๊งอาชญากรไซเบอร์จีนในพรมแดนไทย-เมียนมา